รอบรั้วเชียงราย » เชียงราย ยังวิกฤต! อ.เทิง น้ำท่วมทุกตำบล หนักสุดรอบ 30 ปี

เชียงราย ยังวิกฤต! อ.เทิง น้ำท่วมทุกตำบล หนักสุดรอบ 30 ปี

22 สิงหาคม 2024
10133   0

จ.เชียงราย ยังวิกฤต! อ.เทิง น้ำท่วมทุกตำบล หนักสุดรอบ 30 ปี นักเรียนตกค้างกลับบ้านไม่ได้ ต้องนอนค้างในโรงเรียนกว่า 60 คน 

วันนี้ (22 ส.ค.67) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ยังคงน่าเป็นห่วง ในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.67 ทำให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วม ล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และถนนขาด โดยช่วงกลางวันที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำหงาวได้ไหลหลากซัดคอสะพานขาด 2 จุด บนถนนหมายเลข 1155 ในพื้นที่บ้านปางค่า ม.8 และบ้านเหล่า ม.1 ต.ตับเต่า และยังไหลเอ่อท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.หงาว ในช่วงเย็นที่ผ่านมา ระดับน้ำที่ท่วมจะลดระดับลง มวลน้ำได้ไหลลงมารวมที่แม่น้ำอิงในพื้นที่ ต.เวียง เพราะพื้นที่ ต.เวียง บริเวณด้านหลังเทศบาลตำบลเวียงเทิง เป็นจุดที่มวลน้ำจากแม่น้ำลาว ซึ่งมีต้นน้ำที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยาไหลผ่าน อ.ภูซาง จ.พะเยา มาสมทบกับน้ำหงาว ซึ่งมีต้นน้ำอยู่บนดอยพื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง แม่น้ำทั้ง 2 สาย จะไหลมารวมที่แม่น้ำอิง และอีกด้านหนึ่งก็ยังมีน้ำจากกว๊านพะเยา และน้ำแม่ลอย จาก ต.แม่ลอย ไหลมาลงแม่น้ำอิงผ่านทาง ต.หนองแรด ต.แม่ลอย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 10 ตำบล 156 หมู่บ้าน ประชากรที่ได้รับผลกระทบประมาณ 9,000 ครัวเรือน มีพื้นที่การเกษตรเสียหายรวมประมาณ 36,000 ไร่ 

นอกจากนี้ น้ำป่าได้ซัดคอสะพานในพื้นที่ ต.ตับเต่า ขาด 2 จุด ทำให้มีเด็กนักเรียนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ตับเต่า ที่มาเรียนในตัวอำเภอเทิง ไม่สามารถเดินทางกลับไปที่บ้านได้จำนวนประมาณ 60 คน จึงสั่งการให้ทางเทศบาลตำบลเวียงเทิง จัดเตรียมศูนย์พักพิงและหาที่นอนให้กับเด็กนักเรียน พร้อมกับคณะครูของเด็กนักเรียนดังกล่าว ได้พักอาศัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในบริเวณอาคารโรงเรียนเทศบาลตำบลเวียงเทิง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทิง และ อส. คอยลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเวลากลางคืน และได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ซึ่งมีทั้ง อบจ.เชียงราย จังหวัด ปภ.เขต 15 กู้ภัยจากหลายหน่วยงาน ท้องที่ ท้องถิ่น ตลอดจนถึงภาคเอกชน มาช่วยกันอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัย 

โดยล่าสุด วันนี้ (22 ส.ค.67) ในพื้นที่ อ.เทิง เขตพื้นที่ อบต.เวียง และเขต ทต.เวียงเทิง โดยเฉพาะ บ้านใหม่ ม.10 บ้านร่องขามป้อม ม.9 และบ้านทุ่งขันไชย ม.7 ต.เวียง ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำหงาวไหลมารวมกับแม่น้ำลาวไหลลงแม่น้ำอิงในบริเวณนี้ ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมในชุมชน ประกอบกับมีน้ำโขงหนุน ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ค่อนข้างช้า 

การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งหน่วยงานท้องที่ท้องถิ่นก็ได้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ และมีการร้องขอถุงยังชีพไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย สภากาชาดไทย จ.เชียงใหม่ อบจ.เชียงราย เหล่ากาชาด จ.เชียงราย กิ่งกาชาด อ.เทิง แม้กระทั่งภาคเอกชนอย่าง สโมสรโรตารี่นครเทิง มูลนิธิต่างๆ ก็มาช่วยกันอย่างเต็มที่ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำในพื้นที่ก็จะลดระดับไปในเวลาไม่นาน

นอกจากนี้ได้มีการประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเทิง ให้ออกสำรวจและตัดไฟในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว และในช่วงสายของวันนี้ (22 ส.ค.67)  ทางแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ก็จะนำเอาสะพานเบลีย์มาติดตั้งในบริเวณที่คอสะพานขาดทั้ง 2 จุด เพื่อให้สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติ หากไม่มีฝนตกมาเพิ่มก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว แต่ถ้ามีฝนตกมาอีก เราก็เตรียมความพร้อมในการอพยพผู้ป่วย เด็ก คนแก่ โดยมีการจัดเตรียมศูนย์อพยพไว้ที่บริเวณวัดอุทธราราม บ้านทุ่งขันไชย ม.7 เรามีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง 

นายประศาสตร์ กุลไพศาล ผญบ.บ้านร่องขามป้อม ม.9 ต.เวียง เผยว่า ในหมู่บ้านของตน ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำ ได้มีน้ำเอ่อท่วม บางจุดสูงประมาณ 1 เมตร โดยครั้งนี้น้ำมาเร็ว ก่อนหน้าที่น้ำจะเอ่อท่วม ตนได้ประกาศเตือนลูกบ้านแล้ว แต่ปรากฏว่าน้ำขึ้นเร็ว หลายคนเก็บของไม่ทัน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ไม่เคยมีน้ำท่วมสูงแบบนี้มาก่อน ที่น่าเป็นห่วงก็คงเป็นเรื่องกระแสไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดทางการไฟฟ้าได้ดำเนินการตัดไฟไปแล้ว แต่ได้กำชับให้ลูกบ้านไม่ให้เข้าใกล้จุดเสี่ยงในรัศมี 3-5 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่ายังมีอันตรายอยู่ 

ด้าน นายธีรภัทร วงศ์วุฒิ ผช.ผญบ.บ้านใหม่ ม.10 ต.เวียง ที่เผยว่า ที่หมู่บ้านของตนมีบ้านที่ท่วมหนักอยู่ประมาณ 6 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ก็อพยพออกมากันหมดแล้ว อาจจะเหลือเพียงบางหลังคาเรือนที่ออกมาไม่ได้ แต่ก็มีญาติพี่น้องที่อยู่ข้างนอกคอยนำเอาน้ำดื่มและอาหารไปส่งให้ ครั้งนี้เป็นเหตุน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี 

สถานการณ์ล่าสุด ทั้งในพื้นที่ อ.เทิง และอ.เวียงแก่น ยังคงมีฝนตกลงมาตลอด โดยในพื้นที่ อ.เวียงแก่น ก็ยังมีนักเรียนหญิงของโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน 10 คน ที่เดินทางกลับบ้านไม่ได้ เพราะถนนทางกลับบ้านโดนน้ำป่าซัดขาด ต้องนอนค้างในโรงเรียน โดยมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และที่นอน ส่วนใน อ.เทิง