ตะลุยข่าว » อาชญากรรม-ยาเสพติด » รอง ผบช.ภ.5 ชี้พบเบาะแสคนร้ายทุบหัวยายชิงทอง

รอง ผบช.ภ.5 ชี้พบเบาะแสคนร้ายทุบหัวยายชิงทอง

10 สิงหาคม 2024
7948   0

รอง ผบช.ภ.5 ชี้พบเบาะแสคนร้ายทุบหัวยายชิงทอง

วันนี้( 9 ส.ค. 67) ที่ สภ.เมืองเชียงราย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ให้ติดตามความคืบหน้าของคดีคนร้ายทุบหัวนางเสงี่ยม กุณณา อายุ 71 ปี ดับภายในบ้าน ม.16 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยมีคนไปพบศพเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 สิงหาคม 67 ที่ผ่านมา มี พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ให้การต้อนรับและร่วมให้ข้อมูลของคดี

โดยในวันนี้ที่ประชุมได้นำข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่พบเห็นบุคคลที่เข้า – ออกซอยบ้านของยายเสงี่ยม ในช่วงเย็นของวันที่ 4 สิงหาคม จนถึงช่วงเช้าวันที่ 5 สิงหาคม มาตรวจสอบและพบว่าในช่วงเวลา 20.30 น.ของวันที่ 4 ส.ค.พบรถจักรยานยนต์ปริศนาคันที่ 2 ที่ได้ขี่เข้าไปในซอย จากนั้น เวลา 20.35 น. รถมอเตอร์ไซค์ปริศนาคันที่ 2 ได้ขี่ออกจากซอยไปใน เวลา 03.20 น. และชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้บ้านยายเสงี่ยมได้เปิดประตูออกมาชะโงกดูหลังจากได้ยินเสียงหวีดร้องในเวลา 04.28 น. รถจักรยานยน์ปริศนาคันสุดท้ายได้ขี่เข้าไปภายในซอยบ้านของยายเสงี่ยมก่อนรุ่งสางและในช่วงเวลา 06.12 น. ชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกไอ้โม่ง ขับเข้าไปภายในซอย เวลา 07.50 น.และผู้ต้องสงสัยคนเดิมขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย

หลังจากการประชุม พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ได้เผยถึงความคืบหน้าของคดี ว่า เหตุการณ์คนร้ายทำร้ายผู้สูงอายุเพื่อชิงทรัพย์ ทาง ผบช.ภ.5 ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ จึงมอบหมายให้ตน พร้อมกับทีมงานสืบสวนภาค 5 มาร่วมทำงานกับทีมสืบสวนจังหวัดเชียงราย และทีมสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อช่วยสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ในพื้นที่เมืองเชียงราย และเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน สำหรับคดีนี้ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับแจ้งเหตุ ผบช.ภ.5 ก็ได้สั่งการให้ สภ.เมืองเชียงราย จัดชุดสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสจน์หลักฐาน ภ.จว.จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ร่วมกับแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อเก็บวัตถุหลักฐานในที่เกิดเหตุ เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชน อยู่ท้ายหมู่บ้าน เราจึงต้องเก็บพยานหลักฐานค่อนข้างจะละเอียด และศพผู้เสียชีวิตก็ส่งชันสูตรศพโดยแพทย์นิติเวช ผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 5 ก็ส่งทีมงานทั้งสืบสวนและสอบสวน ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับ สภ.เมืองเชียงราย ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน

โดยในขณะนี้”ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวผู้ที่อยู่บริเวณล้อมรอบสถานที่เกิดเหตุมาให้ข้อมูล โดยเฉพาะผู้มีประวัติพ้นโทษ หรือมีประวัติอาชญากร เพื่อสอบสวนให้ครอบคลุมในทุกประเด็น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงกลุ่มใดเป็นกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็นคนรู้จักกับผู้ตาย เคยเข้าออกบ้านหลังนี้ หรืออาจจะไม่ใช่คนในพื้นที่ ที่ประสงค์ต่อทรัพย์ก็ได้ เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ปลอดจากผู้คน การรวมรวมพยานหลักฐาน เราต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ ซึ่งจากการตรวจสอบก็มีทั้งรอยเท้าที่คาดว่าจะเป็นของคนร้าย รอยเลือดในที่เกิดเหตุ และบาดแผลตามตัวผู้เสียชีวิต” ทั้งนี้้ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ชุดสายตรวจ รวมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษ เพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่ตรวจตราบริเวณที่เกิดเหตุ ก็อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนว่าในคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่อยู่อาศัยแวดล้อมที่เกิดเหตุและผู้ต้องสงสัยมาให้ข้อมูลมากกว่า 10 ปากแล้ว คาดว่าคนร้ายน่าจะมีแค่คนเดียว โดยประเด็นชิงทรัพย์ก็เป็นประเด็นสำคัญต้นๆในการก่อเหตุ แต่ประเด็นอื่นๆเราก็ไม่ได้ตัดทิ้ง อย่างเช่นประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว ประเด็นความขัดแย้งในครอบครัว ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งแต่อย่างใด หากมีข้อสงสัย ก็จะดูพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มาว่าสอดคล้องกับในที่เกิดเหตุหรือไม่ เพื่อจะนำมาประมวลในการสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาวุธน่าจะเป็นของแข็ง ไม่มีคม มีร่องรอยตามเนื้อตัวผู้ตายหลายจุด ทั้งบริเวณศรีษะ และลำตัว โดยคนร้ายเข้าทางหน้าต่างด้านหน้าบ้าน ซึ่งอาจจะไม่ได้ล็อคไว้ ส่วนช่วงเวลาการเสียชีวิตยังต้องรอผลตรวจที่ชัดเจนจากนิติเวช แต่คาดว่าไม่น้อยกว่า 6 ชม. ก่อนจะพบศพ

จากนั้น พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านมารออยู่เป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วและจะนำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ด้าน น.ส.จิตตนันท์ กุณณา อายุ 42 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย เผยว่า ตนเองมีครอบครัวอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ส่วนพี่สาวอยู่ที่ จ.มหาสารคาม นานๆทีถึงจะกลับบ้านสักครั้ง ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุเศร้ากับแม่แบบนี้ หากคนร้ายยังมีจิตสำนึกความเป็นคนอยู่ ก็อยากให้เขามามอบตัว ส่วนเรื่องว่าจะอโหสิกรรมให้หรือไม่ ตนคงตอบไม่ได้ ทางครอบครัวพยายามปกปิดข่าวการตายไม่ให้ยายรู้ (แม่ของผู้ตาย) เพราะยายอายุเยอะแล้ว และมีโรคประจำตัวด้วย สำหรับพิธีศพจะมีการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค. นี้