นราธิวาสเข้ม!!! กองกำลัง 4 ฝ่ายคุมตั้งจุดตรวจจุดสกัดครบรอบ 19 ปี ปล้นปืนปิเหล็ง
สืบเนื่องจากในวันที่ 4 มกราคม เป็นวันครบรอบ 19 ปี เหตุคนร้ายปล้นปืนจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ “ค่ายปิเหล็ง” ซึ่งตั้งอยู่บ้านปิเหล็งใต้ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคนร้ายได้สังหารเจ้าหน้าที่ทหาร 4 นาย และ ขโมยปืนไปได้ 413 กระบอก
ล่าสุด พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนราธิวาส สั่งกำชับ เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย (ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชน) เฝ้าระวังสถานการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยการจัดกำลังคุมเข้ม จุดตรวจ จุดสกัดบนถนนสายหลักและสายรองก่อนเข้าตัวเมืองนราธิวาสและตามพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ด้วยการตรวจสอบรถยนต์-รถจักรยานยนต์เป้าหมาย รวมทั้งบุคคลต้องสงสัยที่จะสัญจรผ่านด่านตรวจผ่านเข้าไปยังเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสอย่างละเอียด เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแฝงตัวนำสิ่งของวัตถุระเบิด ปะปนเข้ามากับประชาชนเข้าพื้นที่ พร้อมทั้งการนำภาพถ่ายของบุคคลที่อยู่ในหมายจับคดีความมั่นคงมาตรวจสอบกับบุคคลที่ขับและขี่ยานพาหนะผ่านไปมาเพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีแฝงตัวก่อเหตุร้ายขึ้นเหมือนกับในช่วงอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้รวมถึงการเฝ้าตรวจจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชม.อีกทั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท เพิ่มความระมัดระวังในทุกภารกิจ
ขณะที่นาวาโท อำนาจ ภู่ทอง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน กองทัพเรือ 33 ได้สั่งการให้กองร้อยปืนเล็กที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ 33 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสตั้งจุดตรวจ จุดสกัดไม่ประจำที่ เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบมาก่อเหตุในพื้นที่ พร้อมทั้งพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเป็นหูเป็นตาให้อีกแรงหนึ่ง และสอบถามความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิตในห้วงปัจจุบัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในชุมชน ทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่อีกด้วย
ในส่วนของพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นแนวชายแดน ไทย- มาเลเซีย พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้กำชับกองกำลังทั้ง 4 ฝ่าย (ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชน)จัดกำลังคุมเข้มตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ติดตามเฝ้าระวังและป้องกันพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออกอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมเน้นย้ำในการปฎิบัติหน้าที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เนื่องจากเกรงจะตกเป็นเป้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบ ที่พยายามเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในการตอบโต้ พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้ามาในพื้นที่เป็นพิเศษอีกด้วย
ข่าว/ภาพ.ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส