พ่อเฒ่าก่อเหตุเผารถยนต์ก่อนลงมือยิงตัวตายแต่ไม่ถึงฆาตคาดถูกแก็งคลอเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน 5 ล้าน
เมื่อเวลา 08.01 น. วันที่ 18 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุคนร้ายเผารถยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ที่บริเวณทางสาธารณะบ้านน้ำพุ หมู่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต ทราบ ก่อนเดินทางไปพร้อมกับหน่วยกู้ภัยมาบอำมฤตเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุที่เป็นจุดเปลี่ยวถนนลูกรังลงชายทะเลบ้านบางเบิด ใกล้กับเขตติดต่อ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์กระบะมิตซูบิตอนเดียวสีขาว ทะเบียน 1 ฒค 2730 กรุงเทพมหานคร สภาพเหลือแต่ซากถูกไฟไหม้หมดทั้งคัน
ใกล้กันพบผู้เคราะห์ร้ายทราบชื่อภายหลังว่า นายณฐพจน์ พุ่มสวัสดิ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 3 ตำบลถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นคนมีฐานะและเป็นเจ้าของสวนสละรายใหญ่ของ จ.ชุมพร ได้หนีรอดออกจากรถยนต์คันดังกล่าวโดยได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส หน่วยกู้ภัยมาบอำมฤตจึงได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งต่อไปโรงพยาบาลชุพรเขตรอุดมศักดิ์เพื่อทำการรักษาตัว
นางจิณณรัชต์ พุ่มสวัสดิ์ อายุ 50 ปี เป็นภรรยาของ นายณฐพจน์ ผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้ปากคำกับ ร.ต.ท.รัชพล คำมุงคุล พนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต ร่วมสอบปากคำด้วยตนเอง โดยนางจิณณรัชต์ ให้การว่านายณฐพจน์สามีตนเป็นโรคซึมเศร้ามานานแล้ว และมามีปัญหามากขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาจากการที่ตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติอ้างว่าเป็นนักข่าวชาวไนจีเรีย ตีสนิทชวนลงทุนทำธุรกิจและใช้อุบายหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีไปกว่า 5 ล้านบาท ตนมารู้ภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ และตนเองก็ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะเห็นว่ามีหลายคนที่ถูกหลอกเมื่อไปแจ้งความแล้วก็ไม่สามารถเรียกเงินคืนมาได้ ทำให้มีปัญหากับทางบ้านเรื่อยมา และสามีก็บ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย และเคยเขียนจดหมายลาตายมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์จริงตามที่ขู่ไว้ ตนก็ได้แต่ห้ามและปลอบใจ แต่สามีก็ยังทำใจไม่ได้ ขณะที่สามีเกิดเหตุตนเองได้นั่งสมาธิอยู่ที่โรงแรมชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว อยู่ และทางเจ้าหน้าที่แจ้งจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต กล่าวว่า ตอนแรกได้แจ้งเป็นเหตุฆาตกรรม เมื่อพนักงานสอบสวนไปที่เกิดเหตุ พบมีแต่ซากรถยนต์ถูกเผาเหลือแต่ซาก และได้ประสานให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานลงมาเก็บรายละเอียด ส่วนผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมาบอำมฤต แต่อาการสาหัส ต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวถึงลักษณะการก่อเหตุคล้ายกับการเผาฆ่าอำพรางคดี แต่จากสอบสอบสวนเบื้องต้นทำให้ทราบว่า ผู้บาดเจ็บเคยบอกกับภรรยาว่าจะก่อเหตุฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง และก่อนเกิดเหตุขึ้น นายณฐพจน์ได้ขับรถออกจากบ้านช่วง 6 โมงเย็น โดยบรรทุกล้อยางรถยนต์ไปด้วยจำนวนมาก เมื่อไปถึงยังจุดเกิดเหตุประมาณค่ำๆ ก็ลงมือจุดไฟเผาล้อยางหลังรถ ก่อนเดินเข้าไปนั่งยังเบาะนั่งคนขับจากนั้นได้ใช้อาวุธปืนขนาด .17 บรรจุกระสุนขนาด .22 ยิงตัวเองที่ใต้คางกระสุนทะลุลิ้นไปฝังอยู่ใต้ตาข้างซ้าย ไม่ถูกจุดสำคัญ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อไฟได้โหมไหม้หนักเข้าตัวนายณฐพจน์ทนความร้อนไม่ไหวจึงเปิดประตูรถคันที่กำลังลุกไหม้แล้ววิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจนมีชาวบ้านไปพบแจ้งแจ้งกู้ภัยดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังจะทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุและพยานบุคคล พยานสิ่งแวดล้อมอื่น ๆประกอบ ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงของคดีนี้ต่อไป…..