เมียเก่ากอล์ฟมือฆ่าชิงทรัพย์ไม่ทราบสาเหตุจูงใจฆ่าโหดวอนขอลูกคืน
จากเหตุการณ์ที่คนร้ายจำนวน 2 คน ตระเวนชิงทรัพย์รถยนต์เก๋ง Toyota CAMRY เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565ก่อนไปก่อคดีซ้อนใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์จ่อยิงโหดผู้เสียหายบริเวณศีรษะจนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายให้การอำนวยการ พล.ต.อ.สุซาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ร่วมกันจับกุมตัว 2 คนร้าย ได้ที่บริเวณหน้าหอพัก สตูดิโอ 77 ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ทราบชื่อภายหลังว่า นายนราธิปหรือ กอล์ฟ คุ้มภัย อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย มือยิง และนายชยณัฐหรือนัท คุ้มภัย อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุยิงผู้ตาย รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีฟ้า ทะเบียน งธ 8501 ชลบุรี ที่ใช้ก่อเหตุคดีพัทยา รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา ทะเบียน งฉ 1891 นครราชสีมา รถของผู้เสียหายใช้ก่อเหตุคดีแหลมฉบัง ทรัพย์สินของกลางที่ได้มาจากการชิงทรัพย์หลายรายการ โดยตั้งข้อหาในฐานความผิด ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำความผิด ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปิน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน
ล่าสุดทีมงานได้ติดต่อไปยัง ร.ต.ท.อำพูน เทพนันท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านปงอ้อ ม.11 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ นายนราธิป เป็นลูกบ้านและหลานเขย โดย ร.ต.ท.อำพูน ได้เล่าถึงพฤติกรรมของนายกอ์ฟ หรือนราธิป คุ้มภัย 1 ในสองผู้ก่อเหตุ ว่า ตอนที่ นายกอล์ฟมาแต่งงานกับ น.ส.วลัยพร คุ้มภัยหรือหนุ่ย อายุ 25 ปี หลานสาวของตน ชาวปงอ้อ และได้ย้ายสำเนาทะเบียนบ้านมาเป็นคนในหมู่บ้าน เมื่อราวต้นปี 2564 ตนเองสมัยนั้นยังรับราชการตำรวจและเปิดบริษัทขนส่งเล็ก ๆ และเห็นว่านายกอล์ฟเป็นหลานเขยมีลูกกับหลานสาวตนถึง 2 คนและว่างงานอยู่จึงได้จ้างให้มาขับรถพ่วงขนส่งสินค้า โดยให้ค่าจ้าง 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งพฤติกรรมของเขาเป็นคนใจเย็น พูดจาสุภาพ กับเพื่อนรวมงานกับตนก็ไม่เคยแสดงปฎิกริยาก้าวร้าวสิ่งสำคัญเหล้ายา ไม่แตะ ถือเป็นคนใช้ได้ที่มีจิตอาสาช่วยงานในหมู่บ้านเป็นอย่างดี ทำงานกับตนตั้งแต่เดือน มิถุนายน- พฤศจิกายน 2564 ก็ขอกลับไปจังหวัดชลบุรีพร้อมเดินทางไปกับ น.ส.หนุ่ยและหลาน จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย มาทราบอีกครั้งก็ตอนที่เขาทั้งคู่เลิกกันเมื่อต้นปี 2565 โดย หนุ่ยพาลูกคนโตอายุ 7 ขวบกลับมา 1 คน ส่วนลูกคนเล็ก 5 ขวบ ไปอยู่กับนายกอล์ฟ ซึ่ง น.ส.หนุ่ยปัจจุบันทำงานกับร้านสะดวกซื้อ ที่อ.แม่จัน
น.ส.วลัยพร คุ้มภัย ภรรยาเก่ากล่าวว่า ตนเอง พึ่งทราบเรื่องที่อดีตสามีไปก่อเหตุรู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าเขาจะไปก่อเหตุ
ตอนที่อยู่กินด้วยกันก็ไม่เคยใช้ความรุนแรงไม่คล่องเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่ทราบว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยส่งเงินให้กับตนและลูกคนโตเลยหลังจากเลิกกัน แต่ตนเองได้คุยกับแม่ของกอล์ฟทางไลน์ซึ่งแม่ของกอล์ฟรักหลานมาก หลังจากที่กออล์ฟตกกเป็นผู้ต้องหาเพราะไปก่อคดีดังกล่าว ตนเองก็อยากได้คืนเพื่อมาเลี้ยงดูหวังว่าแม่ของกอล์ฟจะเข้าใจ
ร.ต.ท.อำพูน กล่าวว่า เรื่องลูกคนเล็กของหนุ่ย ญาติๆได้คุยกันหมดแล้ว ว่าจะช่วยกันเลี้ยงดูส่งเสียให้ได้รับการศึกษา ซึ่งจากนี้ไปจะได้ติดต่อไปยังแม่ของกอล์ฟเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้