อุทาหรณ์ สาวใหญ่นักธุรกิจหวังเงินก้อนโตถูกมิจฉาชีพชวนลงทุนซื้อขายสลากญี่ปุ่นสูญเงินกว่า 350,000 บาท เอะใจเลยไม่ได้นำบ้านไปจำนองและนำรถยนต์ไปจำนำ
เจ๊พร ( นามสมมุติ ) เจ้าของธุรกิจ ในอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองก็ถูกแงมิจฉาชีพหลอกร่วมลงทุนธุรกิจสูญเงินไปเกือบ4แสนบาท และเกือบจะต้องนำรถยนต์ บ้านไปจำนำ แต่มาได้สติก่อน
โดย เจ๊พร ได้เล่าว่า ก่อนหน้านั้นได้มีผู้ชายคนหนึ่ง นายเอ (นามสมมุติ) ทักขอเป็นเพื่อนมาทางเฟสบุ้ค ตนก็รับเป็นเพื่อน จากที่พุดคุยกันไม่นาน นายเอ ก็เริ่มชักชวนตนเองร่วมลงทุนใน แพลตฟอร์มสลาก ลอตเตอรี่ของประเทศญี่ปุ่น โดยบอกว่าได้กำไรดี สนจะร่วมลงทุนไหมหากสนใจจะสนแพลตฟอร์มมาให้เพื่อสมัครสมาชิก โดยบอกว่าจะร่วมลงทุนเท่าไหร่ก็ได้ หากเราพอใจกับยอดเงินแล้วก็ถอนเงินออกมาได้เลย ซึ่งนายเอ บอกว่าตัวเขาเองก็เล่นและได้ผลกำไรดีมาก ทำให้ตนเองอยากลองดู จึงตกลงและทดลองลงทุนครั้งแรก จำนวน 5,000 บาท
โดยนายเอให้โอนเข้าบัญชีบุคคล คนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นบัญชีม้า จากนั้น ก็ได้ log in เข้าแพลตฟอร์มที่ได้รับและสมัครสมาชิก และได้ user name กับ Password มา และเมื่อเข้าไปเช็คในแพลตฟอร์ม ก็ให้เราเลือกว่าจะเข้าในห้องธรรมดา หรือ ห้อง วีไอพี ตนเองจึงเลือกเข้าห้องธรรมดาเพราะเงินลงทุนไม่มาก จากนั้นก็ให้ตนเองเข้าไปเล่นเกมส์ซึ่งเรียกว่าทำภารกิจ โดยนำเงินของเราจำนวน 5,000 บาทที่ลงทุนไป หารสอง และให้เล่นจับสลาก 4 ครั้งๆละ 1นาที เมื่อทำภารกิจเสร็จ ก็จะมีการจับสลาก ปรากฏว่าได้กำไร 2,200 บาท มียอดเงินเข้าในบัญชีของเรารวมกับที่ลงทุน 7,200บาท ตนเองจึงตัดสินถอนเงินออกมา ซึ่งครั้งแรกก็ถอนได้
จากนั้นตนก็ตัดสินใจเล่นอีกครั้งโดย โอนเงินไปอีก 10,000 บาท ซึ่งจะเป็นการสะสมเงินไว้ในแพลตฟอร์มก่อน หลังจากนั้น ก็โอนเงินเข้าในแพลตฟอร์มไปเรื่อยๆเพื่อสะสมไว้ รวมๆ7 ครั้ง ซึ่งระหว่างนั้นตนเองก็เล่นจับสลากเหมือนเดิม จนกระทั่งหน้าแพลตฟอร์มมีเงินรวมกำไร 553,143 บาท ซึ่งตนเองเห็นว่าเงินเยอะแล้วจึงต้องการถอน แต่ปรากฏว่าการถอนเงินล้มเหลว จึงประสานงานไปทางแซทเพื่อสอบถามปัญหาว่าทำไมจึงถอนเงินไม่ได้ มิจฉาชีพอ้างว่าต้องจ่ายค่าภาษี ก่อน 82,000 บาท ตนเองจึงโอนเงินค่าภาษีไปให้อีก รวมเป็นเงินที่โอนไปกว่า 350,000 บาท
และเมื่อโอนเงินค่าภาษีไปแล้ว ก็ยังถอนไม่ได้ สอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่า กรอกนามสกุลผิด จาก สระ อู เป็น สระ อุ หากต้องการเข้าไปแก้ ระบบ ต้องโอนเงิน เข้าไปก่อนเป็นสองเท่าของยอดที่จะถอนคืออีก กว่า 5 แสนบาท เพราะเป็นเรื่องของระบบป้องกันความปลอดภัยของบัญชี จึงจะถอนเงิน ได้ รวม เงินปันผล เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
ตนเองจึงเตรียมจะนำรถยนต์ ที่มีอยู่ไปจำนำและเตรียมโฉนดบ้าน เพื่อที่จะนำไปจำนอง เพื่อหาเงินกว่า 5 แสนบาทโอนไปให้ เพราะต้องการถอนที่ค้างในแพลตฟอร์มออกมาให้ได้ แต่ก็เริ่มมาเอะใจ ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีฟัง สามี ก็บอกว่าโดนหลอกแล้ว กว่าจะมาได้สติก็สูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท
ซึ่งอย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองเสียทรัพย์สินภายในบ้าน เพื่อนำลงทุนไปหลายรายการ เป็นเงินสด และ ทองคำที่เก็บไว้ มากว่า 20 ปี จึง อยากจะเตือน คนอื่นๆว่าอย่าได้ไปหลงกลกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งครั้งนี้ ตนเอง ถูกหลอกให้ลงทุนทางออนไลน์ จึงได้แจ้งความออนไลน์ไปที่ 1441 และหวังว่าจะได้เงินคืนบ้าง ทั้งนี้เจ๊พร บอกว่า เคยดูข่าวและทราบข่าวต่างๆว่ามิจฉาชีพมาหลอก แต่ ไม่คิดว่าตนเองจะมาโดนเสียเองแบบคิดไม่ถึงขนาดนี้