ตะลุยข่าว » รอบรั้วทั่วไทย » “บิ๊กก้อง” แถลงจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกกลุ่มคนเกษียณอายุ

“บิ๊กก้อง” แถลงจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกกลุ่มคนเกษียณอายุ

8 มีนาคม 2024
6973   0

“บิ๊กก้อง” แถลง เดินหน้าล่า Sim box เครื่องแปรงสัญญาณโทรหลอกเหยื่อ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (8 มี.ค 67) ที่ตึกกองปราบปราม (อาคารประชาอารักษ์) ชั้น2 โดย พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีผู้ต้องหาจำนวน2 ราย คือ Mr.Kevin (นายเควิน) สัญชาติอินโดนีเซียอายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 894/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค 2567 และ น.ส.จิรนันท์ อายุ 31 ปี สถานที่ตรวจค้น บริเวณคอนโด ย่านซอยลาดพร้าว 71 กรุงเทพมหานคร สถานที่จับกุม วิลล่าหรูใจกลางอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบียนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันมีใช้และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยได้รับอนุญาตและใช้คลื่นความถี่โดยได้รับอนุญาต และ ร่วมกันประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่รับอนุญาตและความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าว

โดยพฤติการ คือ คนร้ายจะโทรไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเกษียณอายุ โดยหลอกว่าจะมีการคืนเงินบำเน็จ บำนาญ จากนั้นจะหลอกให้โหลดแอปฯ และหลอกให้โอนเงิน ซึ่งคนร้ายทำแบบนี้กับผู้เสียหายหลายราย จนไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ โดยกลุ่มของคนร้ายจะใช้เครื่องส่งสัญญาณผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อควบคุมการสั่งการซิมการ์ด ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวน จนพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว71 จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบอุปกรณ์ GSM Gateways (Simbox) จำนวน 4 เครื่อง ซึ่ง 1 เครื่องใส่ได้ 32 ซิมการ์ด ซึ่งแก๊งนี้สามารถหลอกได้ 3 แสนครั้งต่อเดือน เมื่อแก๊งนี้โทรไปหาปลายทาง เบอร์จะขึ้น 10 หลักปกติในไทย โดยไม่มีสัญลักษณ์ +69 เพื่อให้ปลายสายเข้าใจว่าเบอร์ที่โทรหานั้นอยู่ในไทย โดยพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นผู้สั่งการ ขนย้าย และติดตั้งอุปกรณ์ในคอนโดดังกล่าว

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพ และได้รับค่าจ้าง 50,000 – 60,000 บาท จากนายทุนต่างชาติ รู้จักกันที่ปอยเปต ทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป และจะขยายผลทลายแก๊งดังกล่าว เพื่อติดตามจับกุมต่อไป