สาวใหญ่ป่วยซึมเซาเครียดหนักปัญหาการเงินเลียร์ไม่ลงตัวยิงดับแฟนทอม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(24 กุมภาพันธ์ 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงรายได้รับแจ้งว่ามีเหตุว่ามีการยิงกันขึ้น บริเวณกลางหมู่บ้านใหม่นาวา ม.20 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟือง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ต.ประเสริฐ พาดี พนง.สอบสวน สภ.เมือง ทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบมีไทยมุงจำนวนมากเกาะรั้วบ้านเพื่อสังเกตเหตุการณ์จำนวนมาก โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีอาคารจำนวน 3 หลัง เลขที่ 50 ม.20 บ้านใหม่นาวา ที่ตรงโต๊ะนั่งเล่นหน้าบ้าน พบกองเลือดกระจายอยู่เต็มพื้นมีปลอกกระสุนปืน 3 ปลอกและหัวกระสุนปืน 1 หัวตกอยู่ที่พื้น ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.ปาริสตา อินทะวัง อายุ 48 ปี ชาวตำบลบ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ที่เป็นทอมถูกยิงด้วยอาวุธปืน CZ 75 B RETRO ขนาด 9 มม.เข้าที่แซกหน้าออกท้ายทอย 1 นัด และต้นแขนซ้าย 1 นัดถูกนำตัวขึ้นบนรถพยาบาลเพื่อนำไปผ่าพิสูจน์อีกครั้ง โดยในที่เกิดเหตุ ใกล้ๆกันพบ น.ส.ผัดแก้ว กันจินะ อายุ 55 ปีเจ้าของบ้านมือปืนนั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับน.ส.ปาริสตา ที่เป็นแฟนกัน ได้นัดกันมาคุยเพื่อเคลียร์ปัญหา ซึ่งระหว่างพูดคุยก็ได้ดื่มเหล้าเบียร์ไปด้วย โดยตนเองพยายามทวงถามเรื่องเงินแบ่งผลกำไรจากที่ลงทุนทำธุรกิจซื้อ-ขายและปลอกสับปะรดส่งนอกที่บ้านแม่ข้าวต้ม ตำบลแม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย โดยได้ลงทุนร่วมกันเป็นเงินเกือบสองแสนบาท แต่ก็ถูกปฏิเสธเรื่อยมา ทั้งก่อนหน้าตนเองได้ออกเงินดาวน์ซื้อรถเก๋งฟอร์จูนเนอร์มาหนึ่งคัน และช่วยกันผ่อน น.ส.ปาริสตากลับเอาไปใช้เมื่อตนเองเอามาใช้บ้างก็ถูกแม่และญาติทางฝ่ายคนตายต่อว่าด่าทอว่าตนไม่มีสิทธิ์เพราะเป็นเงินของผู้ตายประกอบกับพักหลังพบว่านส.ปาริสตามีการพูดคุยกับสาวหน้าใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ตนไม่พอใจ ตนจึงตัดสินใจใช้ปืนที่แอบซื้อไว้ราวหนึ่งเดือนในราคา 50,000 บาท รัวยิง น.ส.ปาริสตา จนหมดแม็กซ์ จำนวน 3 นัด จน น.ส.ปาริสตา ตกเก้าอี้และเสียชีวิตดังกล่าว
ดู.ญ.ใหม่อายุ 7 ขวบ พักอยู่บ้านฝั่งตรงกันข้ามที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะปั่นจักรยานไปงานศพคนในหมู่บ้านขณะกำลังผ่านบ้านเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนเองก็เหลียวมอง แต่พอได้ยินเสียงปืนครั้งที่สองก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้านพร้อมบอกย่าให้เข้าไปหลบในบ้านซึ่งขณะนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นครั้งที่สาม ตนเองกลัวมาก
นางอนิตะยา มโนวัน อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตนเองป่วยด้วยอาการขาอ่อนแรงไม่สามารถลุกเดินเหินได้ปกติ ขณะนอนอยู่ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และได้ยินนัดที่สองถัดมาก็เห็นน้องใหม่วิ่งมาหาตนด้วยอาการตื่นตระหนกและชวนกันเข้าบ้านแต่ตนไปไหนไม่ได้จึงนั่งกอดกับหลานภาวนาอย่าให้โดนลูกหลงจนเสียงปืนสงบลง ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นตนไม่ได้ยินเสียงของทั้งสองคนทะเลาะกันแต่อย่างไร ที่ผ่านมาผู้ตายแวะมาหา น.ส.ผัดแก้วเป็นระยะๆ ซึ่ง น.ส.ผัดแก้วป่วยด้วยโรคซึมเซา ซึ่ง น.ส.ปาริสตา ก็ได้พาไปรับการรักษาและรับยาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เป็นประจำ ส่วนสาเหตุการยิงกันในครั้งนี้ตนเองคาดว่าน่าจะเกิดจากโรคซึมเซาหรือเปล่า
เจ้าหน้าจึงรวบรวมหลักฐานและนำตัวผู้ต้องหาเข้าไปทำแผนภายในห้องนอนภายในบ้านที่มีการนำลูกปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 กล่องมาเก็บไว้ภายในกระเป๋าสะพาย และไปชี้จุดที่ลงมือสังหาร
จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางอาวุธปืนส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
สำหรับ น.ส.ผัดแก้ว มือปืน เคยไปทำงานที่ญี่ปุ่น และแต่งงานกับชายขาวญี่ปุ่น มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้หญิง ต่อมาได้เลิกกับสามีชาวญี่ปุ่นและมาคบสาวทอมผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุลงมือสังหารดังกล่าว