วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 กลายเป็นเรื่องราวสุดหลอนในหมู่บ้าน หลังสาวใหญ่ เจอผีหลอกช่วงกลางวัน เหตุเพราะมีหญิงสาวต่างพื้นที่ ถูกหลอกมาฆาตกรรม ทิ้งกลางป่าอ้อย โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณหมู่ 9 ตำบลวังพิกุล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยหลังหญิงสาวรายดังกล่าวตายเพียงแค่ 4 วัน ก็ปรากฏตัวให้ชาวบ้านในหมู่บ้านได้เห็นในช่วง 5 โมงเย็น ส่วนคนที่เห็นเต็ม 2 ลูกตาคือ นางสุดใจ. อินทะมาตร อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลวังพิกุล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์สุดเฮี้ยนเห็นคนตายเป็นหญิงสาวเดินตาม พอตนเองหยุดเดิน หญิงรายดังกล่าวก็จะหยุดเดินด้วย แต่พอตนเองเดินต่อ หญิงรายดังกล่าวก็เดินตาม มาเจอจัง ๆ ตอนเดินขึ้นถนนลูกรัง พบ ไม่มีขา เห็นแค่ส่วนพ้นหัวเข้าไปถึงศีรษะ เจ้าตัวถึงกับตะโกนเสียงหลง จนลูกสาว ที่กำลังเก็บผักตกใจ คิดว่ามีคนมาขโมยข่ายดักปลา ที่แม่ซื้อมาใหม่ ๆ แต่พอรู้เรื่องราว ถึงกลับไม่กล้ามาเก็บผัก ไปขายอีกเลย นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าที่ต้องขับรถออกไปซื้อของที่ตลาดมาขาย ก็ยังเจอ โดยช่วงที่เห็นคือข่วงเวลาตี 1 เห็นคนตาย เดินไปมาตามถนน งานนี้เล่นเอาพ่อค้าต้องเปลี่ยนเวลา ขับรถออกมาซื้อของกันให้วุ่น ส่วนที่คนตายมาปรากฏตัวให้เห็นแบบ จะๆ เชื่อเพราะเคยพูดบ่นว่ามาตายอะไรตรงนี้ คนเขาจะทำมาหากิน ลำบากกันไม่หมด จากนั้นไม่นานก็เจอดีเลย
ส่วนหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมกลางไร่อ้อย ก็คือ นางสาวอำพร จอแหยม อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 10 บ้านซับยาง ต.วังใหญ่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถูกน้องสะใภ้ ลวงมาฆ่าทิ้ง เหตุเพราะเรื่องหนี้สิน เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 28 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 07.40 น.
จากการสอบถาม นางสุดใจ. อินทะมาตร อายุ 60 ปี เล่าว่า เล่าว่า ตนเองถูกผีหลอก เห็นผู้ตายเดินอยู่แถวที่เคยเสียชีวิต แถวคูคันนา เดินไปมา ตอนแรกคิดว่าหลานไปหารูหนู โดยตนเองยืนดูอยู่ทางทุ่งนา ดูอยู่นาน ก็เห็นเดินลงมาทางคันนา เห็นหน้าดำๆ ตอนแรกก็ไม่ทันได้สังเกตว่าเห็นขาหรือเปล่า เห็นแต่หัว เพราะเป็นป่าหญ้าคา เวลาตนเองยืนมอง ผู้ตายก็มองมาทางตนเอง เห็นหน้าดำๆ ยังแอบคิดในใจว่าถ้าเป็นคน ทำไมเขาไม่กลัวหรอ เพราะพึ่งมาทำแผนคนตาย โดยตอนนั้นก็เริ่มกลัวแล้ว เลยเดินขึ้นมาป่าถั่วตนเอง ก็เห็นเดินข้ามถนน แต่กลับไม่มีขา มีแค่ครึ่งตัว ตนเองเลยร้องเสียงหลง โดยสิ่งที่เห็นเป็นผีแน่นอน รูปร่างคล้ายคน ตัวดำ หน้าดำ มีแค่ครึ่งตัว ลอยผ่านลงไปในน้ำ ที่ตนเองลงข่ายไว้ ตอนนั้นที่เห็น น่าจะเป็นช่วงที่เลิกทำแผน ยังไม่ค่ำเท่าไร ตั้งแต่เกิดมา ในชีวิต พึ่งเคยเจอผี 2 ครั้ง ครั้งนี้ถือว่าถูกหลอกชัดมาก และมีคนพูดกันว่า มีคนเห็นผู้หญิงใส่เสื้อสีแดง เดินไปมา แต่ที่ตนเห็น รูปร่างสีดำทะมึนทั้งตัว ตนเลยพูดขึ้นมา จะยกโทษให้ผู้ตายอยู่ ที่ตนเคยด่าว่ามาตายทำไมตรงนี้ คนเขาหากุ้ง หาเขียด หาปลาก็ไม่ได้ ตนเองก็จะกลัวไม่กล้ามาหา เลยบนไปว่า ให้ผู้ตายไปดลจิตดลใจ ให้จับคนร้ายตัวจริงได้เสียที
ด้าน นางสาวบังอร อินทะมาตร อายุ 43 ปี ลูกสาว เล่าว่า เล่าว่า ตอนแรกตนเองไม่เชื่อ แต่มีเซ็นท์อยู่แล้วกับเรื่องแบบนี้ เพราะตนเองชอบออกมาหาจับเขียด ก็ไม่เคยกลัวอะไร กลัวแต่งู แต่พอมาเจอศพ หนูก็ไม่กล้าดู ตั้งแต่เขาตาย ก็ไม่กล้าออกมาเลย แล้วหลานชายมาบอกว่า มีรถกับข้าวเห็นผู้หญิงใส่เสื้อแดง เดินบนถนน ตอนตี1ตี2 ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่ามีคนตาย และอีกคน ก็เป็นแม่ตนเอง พบเจอบริเวณนี้เลย เห็นวิญญาณเดินออกมาตอน 5 โมงเย็น ขณะนั้นเขากำลังทำแผน เขางมหาของแถวสะพาน พอสักพัก แม่ตนลงข่ายเสร็จ ตนเองเก็บผักบุ้งอยู่ ก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนว่า เอาละ มันเอากุละ ตนเองก็นึกว่ามีคนมาขโมยข่าย หรือรีบถามแม่ ก็พบว่าถูกผีหลอก ทั้งที่ยืนอยู่กลางแจ้ง ยังไม่มืดเลย ต่างพากันหวาดกลัวอย่างมาก แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มเลิกกลัวบ้างแล้ว เพราะต้องทำมาหากิน และที่ตนเองมั่นใจมากว่าถูกผีหลอก เพราะพวกตนโกรธเขามาก ที่เอาตนไปเป็นพยาน พอตนกลับมา ก็ป่วยเป็นไข้ทับฤดู ตนเองต้องเรียกแม่ให้มาดูทั้งคืน จนแม่ก็โมโห ร้องบอกว่ามาตายทำไมตรงนี้ ทำมาหากินก็ไม่ได้ คนนั้นก็มาสอบ คนนี้ก็มาสอบ มาเก็บผักก็มีตำรวจมาสอบ แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าอีก ทั้งทีตนเองเป็นคนทำมาหากินตอนกลางคืน หาจับกบจับเขียดประจำ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เพชรบูรณ์ ภาพ-ข่าว ลาวัณย์ วุฒิสินอักษรา