กรมอุทยานฯรุดตรวจไฟป่าดอยตุง สั่งจนท.เฝ้าระวังต่อไปอีก 2 วัน
วันนี้ (6 เม.ย.) จากกรณีเกิดไฟป่าโหมลุกไหม้เป็นบริเวณกว้างบนดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตั้งแต่บ่ายวันที่ 5 เม.ย.66 ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้ร่วมกับ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมหน่วยงานที่ข้องได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟกว่า 200 นาย พร้อมรถดับเพลิง 10 คัน เข้าทำการดับไฟโดยเร่งด่วนในขณะเดียวกันได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ บินโปรยละอองน้ำเพื่อดับไฟป้องกันการลามไปถึงหมู่บ้าน ส่วนจุดที่จะอาจเกิดไฟลามข้ามถนนก็ฉีดพ่นน้ำสกัดเอาไว้ เพื่อไม่ให้ลามไปยังสถานที่สำคัญ เช่น พระธาตุดอยตุง โรงงานผลิตเมล็ดแมคคาเดเมีย ฯลฯ จนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้วเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 6 เม.ย.นี้ โดยพบว่ามีป่าไม้ถูกไฟเผาได้รับความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 200-500 ไร่ แต่อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 1-2 วัน เพื่อป้องกันไฟป่าปะทุขึ้นอีกครั้ง
ล่าสุด นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์การเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ดอยตุงเขตหมู่บ้านผาบือ-บ้านลาบา ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แล้ว
นายอรรถพล กล่าวว่าการเข้าดับไฟป่าบนดอยตุงในครั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ทั้งในเรื่องของการจัดกำลัง การสนับสนุนจากท้องถิ่นและอำเภอใกล้เคียง การสนับสนุนของหน่วยดับไฟป่าเสือไฟ 3 ชุด จาก จ.นคราชสีมา จ.ขอนแก่น ฯลฯ และที่สำคัญที่สุดคือสถานีควบคุมไฟป่าดอยตุงที่สามารถวางแผน และควบคุมสถานการณ์ในการดับไฟได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาสูงชันซึ่งต้องอาศัยหน่วยงานในพื้นที่ที่มีความชำนาญ ทั้งนี้ไฟป่าเกิดจากสภาพของป่าที่เป็นกอไผ่และมีต้นสนขนาดใหญ่ทีมีการสะสมจนเป็นเชื้อไฟ ขณะที่่ก่อไผ่เกิดล้มต้นตายตามธรรมชาติหรือตายขุยพร้อมกันเป็นบริเวณกว้างพอดี เมื่อเกิดไฟไหม้จึงทำให้ลุกลามกระจายตัวจำนวน 3 จุดใหญ่ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ดับไฟและทำแนวกันไฟไว้ได้แล้วจึงจะมีการนำเฮลิคอปเตอร์เข้าโปรยน้ำเพื่อดับไฟให้สนิทเพราะยังมีต้นไม้ เศษไม้ ขอนไม้ ตอไม้ ฯลฯ ที่ยังหลงเหลืออยู่ซึ่งต้องเฝ้าระวังอย่างน้อย 1-2 วันป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก
. สำหรับปัจจุบันในจังหวัดเชียงรายยังเกิดไฟป่าขึ้นในหลายพื้นที่ รวมไปถึงในหลายๆจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนและในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศเมียนมาและ สปป.ลาว ทำให้ยังคงมีฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ในปริมาณที่สูงซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยช่วงบ่ายทางกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย วัดได้ 322 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว วัดได้ 211 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร……..