ถกเครียดหวังจบดราม่าครูกล้อนผม
โรงเรียน บึงสามพันวิทยาคม เรียกประชุม ถกเครียด แก้ปัญหาครูกล้อนผม หวังจบดราม่า โดยเรียก ตัวแทนกรรมการสถานศึกษา ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนเขตการศึกษา ตัวแทนฝ่ายปกครอง ตัวแทนตำรวจ ตัวแทนครูของสถานศึกษา ผล เด็กมองการกล้อนผม เป็นการละเมิดสิทธิ ทำให้อับอาย ขณะครูแจง สังคมต้องมีระเบียบ
วันที่ 13กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีพจเฟสบุ๊ค”นักเรียนเลว” ได้โพสต์รูปภาพครูกล้อนผมนักเรียนชาย พร้อมระบุข้อความว่า” Update: ครูทิ้งหนังสือ ลุกขึ้นจับกรรไกร ไล่กล้อนผมเด็กเกือบทั้งโรงเรียน ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์” ทราบต่อมาคือโรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งหลังจากนั้นโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ได้มีชาวเน็ต และผู้ปกครองบางส่วนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักโดยส่วนใหญ่ตำหนิ การกระทำของครู นั้น ล่าสุด นายธรรมรัฐ นุชเนื่อง รอง ผอ เขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา 40 เพชรบูรณ์ นายนายสุริยกมล ไวยหงษ์ ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอบึงสามพัน พร้อมด้วย ตัวแทนกรรมการสถานศึกษา ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนเขตการศึกษา ตัวแทนฝ่ายปกครอง ตัวแทนตำรวจ ตัวแทนครูของสถานศึกษา ได้ มีการประชุมการแสดงความคิดเห็นระเบียบเครื่องแต่งกายนักเรียน(ทรงผมนักเรียน) ที่หอประชุมโรงเรียน บึงสามพันวิทยา ขึ้นมา
โดยวันนี้ ทางฝ่ายครู ได้เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนแสดงความคิดเห็นถึงกรณี ระเบียบการไว้ทรงผม ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ โดยฝ่ายครู แจง ระเบียบการไว้ทรงผม ตั้งแต่ปี 2562 เป็นการสอบถามความคิดเห็นของเด็กนักเรียน โดยใช้เสียงส่วนมากในการตัดสิน ซึ่งครั้งนั้น เด็ก ๆ ก็เห็นด้วยว่าเด็กนักเรียนชายระดับมัธยมต้น ต้องตัดผมเกรียนด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ขณะที่เด็กนักเรียนชาย มัธยมปลาย จะไว้ผมทรง รองทรงได้ พร้อมระบุเหตุผล ว่า สังคมต้องมีระเบียบ อยู่ด้วยกันภายใต้กฎระเบียบ ซึ่งในอนาคต เด็กเองก็ต้องเจอสิ่งเหล่านี้ในอนาคตการทำงาน หากเด็กมีความต้องการแก้เรื่องทรงผม ทางโรงเรียน ก็ไม่ว่า ขอให้เป็นความต้องการของเสียงส่วนมาก แต่อยากให้เด็กเข้าใจถึงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ด้วย ขณะที่ตัวแทนนักเรียน มองว่า ครูกล้อนผม เป็นการละเมิดสิทธิ ทำให้เกิดความเสียหาย จึงอยากให้เปลี่ยนระเบียบใหม่ เพราะอาจจะก่อให้เกิดความไม่มั่นใจสำหรับตัวเด็กที่ถูกกระทำ
ซึ่งการเจรจา เปิดถกเครียดนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง สุดท้ายได้ข้อสรุป ในที่ประชุม คือ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้นมาอีก ประกอบกับใกล้ช่วงโรงเรียนจะปิดเทอมแล้ว เรื่องทรงผมเด็ก จึงฝากให้ทางผู้ปกครองพิจารณาไปก่อน เมื่อเปิดเทอมใหม่ แล้วค่อยมาสอบถามความคิดเห็นเสียงส่วนมาก ของ ผู้ปกครอง และเด็กๆ ดูอีกครั้ง ว่าต้องการอย่างไร แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดกับระเบียบ หรือ ต้องเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ เท่านั้น ซึ่งหลังได้ข้อสรุปดังกล่าว ก็ทำให้เด็กๆ พอใจในข้อตกลงดังกล่าว
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เพชรบูรณ์ ภาพ-ข่าว ลาวัณย์ วุฒิสินอักษรา