เร่งดับไฟป่าในหลายพื้นที่หลังจุดฮอตสปอตพุ่ง 37 จุด
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เร่งส่งเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า สนธิกำลังร่วมกับทหารพราน กรมทหารพรานที่ 36 เข้าไปทำการดับไฟป่าทั้งกลางวันและกลางคืน หลังมีการเกิดไฟป่าเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางสภาพอากาศที่เริ่มร้อนจัดเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 นายอาคม บุญโนนแต้เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสาละวิน ( ขสป.สาละวิน ) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่าขณะนี้ ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ของ ขสป.สาละวิน ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 36 เข้าไปทำการดับไฟป่าในพื้นที่ป่าสาละวินอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2566 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 ดาวเทียมตรวจพบไฟป่า ทั้งหมด 37 จุดพบในพื้นที่ป่าสมบูรณ์ จำนวน 37 จุดดำเนินการแล้ว 35 จุด พื้นที่เผาไหม้ 300 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 2 จุด
ทางด้าน นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปายและเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า วางแผนกำหนดเป้าหมายเข้าดับไฟป่า ในพื้นที่อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า โดยมีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จำนวน 20 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปาย จำนวน 9 นาย และเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า จำนวน 11 นาย รวมจำนวน 40 นาย พร้อมเครื่องมือดับไฟป่า พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ในการดับไฟป่า และเสบียงอาหาร น้ำดื่ม จากผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าดับไฟป่า ท้องที่อำเภอปายและอำเภอปางมะผ้า
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 6 ก.พ. 66 ) เจ้าหน้าที่เข้าดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บริเวณบ้านผาสำราญ ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และสามารถ ดับไฟเสร็จ เวลา 21.10 น.พื้นที่เสียหายประมาณ 10 ไร่ ชนิดป่าเต็งรัง
นายประจักษ์ บัวแก้ว หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่16 (เชียงใหม่) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าไปทำการดับไฟป่า บริเวณบ้านสบสา หมู่ 4 ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ใช้เวลาในการดับไฟป่าประมาณ 1 ชั่วโมง พื้นที่ป่าเสียหาย ประมาณ 20 ไร่ สาเหตุมาจากการลักลอบหาของป่า ส่วนอีกจุดคือที่หมู่บ้านเดียวกัน พื้นที่ป่าเสียหาย 15 ไร่ สาเหตุมาจากลักลอบหาของป่าเช่นกัน
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 211 จุด คิดเป็นร้อยละ 4.05 ของจุดความร้อนสะสมปี 2565 หรือ คิดเป็นร้อยละ 2.25 ของค่าเป้าหมายปี 2566 ซึ่งทางจังหวัดตั้งเป้าหมายปี 2566 ไม่เกิน 9,378 จุด อำเภอที่มีจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ อำเภอปาย จำนวน 51 จุด โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ดำเนินการจัดทำแนวกันไฟป่าแต่ละพื้นที่โดยได้รับความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อลดการเกิดไฟป่าต่อไป
ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขอำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่าได้มีแนวทางในการปฏิบัติการของทุกหน่วยงานแล้ว โดยได้มีการจัดทำแผนงานและการกำหนดรูปแบบการทำงานอย่างชัดเจน โดยเน้นการสื่อสานการสร้าความรู้ความเข้าใจให้กับภาคประชาชนในการเข้ามาร่วมในการทำงาน และจะมีการยกย่องหน่วยงานภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ลดปัญหาไฟป่าในพื้นที่ด้วย เพื่อพร้อมขับเคลื่อนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป
————————————-
ทศพล / แม่ฮ่องสอน