ระดมกวาดล้างอาชญากรรมภาคเหนือยึดอาวุธและยาเสพติดเพียบ
ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.พร้อม ผบก.ภ.จว.ใน 8 จังหวัดของพื้นที่ ภ.5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมพื้นที่ ภ.5 ตั้งแต่วันที่ 10-29 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผลการจับกุมคดียาเสพติด 2,235 คดี ผู้ต้องหา 2,027 คน ยาบ้า 1,065,589 เม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัม เฮโรอีน 938 กรัม เคตามีน 98.3 กรัม ทรัพย์ที่ยึดได้ 408 รายการ มูลค่า 16,413,355 บาท ยึดอาวุธสงครามได้ 1 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 342 กระบอก และปืนมีทะเบียน 55 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 2,678 รายการและวัตถุระเบิด 2,223 ลูก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1,358 คดี 1,226 คน และยังติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 544 หมาย ผู้ต้องหา 508 คน
นอกจากนี้มีการดำเนินคดีและจับกุมผู้ต้องหาตามข้อร้องเรียนได้อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้แถลงกรณีขยายผลคดียาเสพติดเครือข่าย น.ส.ดนิตา โดยได้จับกุม น.ส.ดนิตา หล้าทราย อายุ 39 ปี ได้ครั้งแรกหลังจากเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจด่านตรวจแม่ทา จ.ลำพูน ได้ตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 20,200 เม็ด เมื่อทำการขยายผลสามารถจับกุมเครือข่ายได้ 5 คน พร้อมของกลางยาบ้าอีก 20,000 เม็ด ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินปรากฎว่าพบเครือข่ายมีการเปิดบัญชีธนาคารและได้พบผู้ไปกดเบิกเงินด้วยบัตรเอทีเอ็ม 2 คน หนึ่งในนั้นเป็น ร.ต.ต.สังกัด ตม.พื้นที่ จ.เชียงราย ที่ไปกดเบิกเงินท้องที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน
พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวว่าเบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับนายตำรวจดังกล่าวในข้อหาสมคบกันทำความผิดในคดียาเสพติดแล้ว ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการเสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้จะไม่มีการละเว้นหากหลักฐานพบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด และกรณีนี้นอกจากจะดำเนินคดีอาญาแล้วยังมีการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงซึ่งก็จะมีโทษทั้งการปลดออกหรือไล่ออก คดีนี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินคดีอาญาซึ่งจะได้ดำเนินการทางวินัยควบคู่กันให้รวดเร็วอีกด้วย ส่วนการกวาดล้างได้อาวุธปืนและยาเสพติดจำนวนมากเหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปฎิบัติการเชิงรุกโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจคัดกรองผู้เสพ ผู้ติดยาและผู้มีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติเพื่อบำบัดและป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ไปก่อเหตุอาชญกรรมรูปแบบต่างๆได้ ขณะเดียวกันก็มีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสกัดกั้นหรือกวาดล้างแหล่งผลิตยาเสพติดที่เป็นต้นทางลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศด้วย
นายวิชัยกล่าวว่าทาง ปปส.เป็นห่วงในเรื่องการผลิตยาเสพติดในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้านที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากปัจจุบันเครื่องอัดเม็ดยานั้นหาซื้อได้ง่ายจึงได้หารือและขอความร่วมมือให้มีการจัดจำหน่ายเฉพาะบริษัทที่ผลิตยาเท่านั้น หากใครซื้อก็ได้ก็จะเป็นปัญหา รวมไปถึงเรื่องเคมีภัณฑ์ที่เป้นส่วนประกอบในการผลิตยาเสพติด บางตัวเป็นเคมีภัณฑ์ที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่หารือร่วมตำรวจและภาคอุตสาหกรรมไม่ให้มีการนำออกไปในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการป้องกันรและปราบกรามก็มีการสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับตรวจ ปัสสาวะให้กับชุดปฏิบัติงานเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ทั่งประเทศ
วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แถลงผลการตรวจยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด “นายอาก๋วย” โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน ยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด ที่อาคารพาณิชย์พื้นที่หมู่ 5 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเดิมได้ยึดทรัพย์เครือข่ายไปแล้วจำนวน 40 ล้านบาท ล่าสุดมีการขยายผลตามหมายจับได้อีกจำนวน 2 คน และระหว่างวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมตัวได่สำเร็จแล้วมีการยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีก 15 ล้านบาท รวมทรัพย์ที่ยึดจากเครือข่ายนี้ได้ทั้งหมด 55 ล้านบาท.
/////////////////