ระวัง!!!! มุขใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นสรรพากร หลอกโหลดแอพก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี
วันที่ 30 ต.ค.2565 มีรายงานว่า แก๊งคอลเช็นเตอร์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์วิธีใหม่ โดยโทรหลอกเหยื่ออ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ขอให้โหลดแอพเว็บไซต์ของสรรพากร พร้อมให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทางสรรพากรจะได้คืนเงินภาษีให้ 17,000 บาท เหยื่อลงทำตามเผลอแพ็บเดียวเงินในบัญชีถูกดูดไปจนหมด ผู้เสียหายรายนี้คือ น.ส.ภัทราวดี อายุ 27 ปี ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปพบกับ น.ส.ภัทราวดี ทันที เมื่อเจิตัวผู้เสียหายได้เล่าให้ฟังว่า “เหตุการณ์จริงๆเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยได้มีพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหาตน แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร พร้อมสอบถามตนเองว่าได้ใช้แอพถุงเงินหรือไม่ โดยทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถบอกชื่อนามสกุลที่อยู่ของตนได้ถูกต้องทั้งหมด ทำให้ตนหลงเชื่อ จากนั้นบุคคลในสายได้กล่าวอ้างว่า ตน(น.ส.ภัทราวดี)ได้จำหน่ายสินค้าแล้วมีการใช้จ่ายเงินผ่านแอพถุงเงิน ทางสรรพากรจะจ่ายเงินภาษีคืนให้เป็นทั้งสิ้นจำนวนเงิน 17000 บาท และวันนี้จะคืนเงินเป็นวันสุดท้าย โดยคุณจะต้องทำเอกสารเบิกจ่ายผ่านในเว็บไซต์ที่ทางสรรพากรจะส่งลิงก์ให้เท่านั้นและหลังจากวันนี้ไปหากคุณไม่ดำเนินการทำในระบบเว็บไซต์ของสรรพากร คุณจะต้องเสียภาษีปีละ 100,000 บาท ให้ทางสรรพากร
ตนเองพยายามพูดคุยสอบถามแต่กลับถูกคนในสายพูดจาโน้มน้าวและเอาข้อกฎหมายมาอ้างจนตน หลงเชื่อ จากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงค์ให้ทำตนทำการโหลดมาติดตั้งบนมือถือ เมื่อติดตั้งเสร็จก็ปรากฎหน้าโลโก้สรรพากรขึ้นมา(เหมือนของสรรพากรจริง) จากนั้นคนร้ายได้ส่งรหัสผ่านมาให้ เมื่อเหยื่อเข้าเว็บไซต์สรรพากรปลอม แล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้สอบถามตนว่ามีแอป ธนาคารกี่บัญชีในโทรศัพท์ และหลอกให้ตนเข้าไปตรวจสอบบัญชีว่ายังปกติดีไหม ซึ่งทางตนได้เปิด 6 บัญชี บนแอป จนครบโดยบัญชีที่ตนถืออยู่นั้นมีเงินอยู่เพียงบัญชีเดียว โดยมีเงินอยู่เพียงสองพันกว่าบาท ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงบอกให้โอนเงินในบัญชีที่มีเงินอยู่ไปยังบัญชีของตัวเอง(บัญชีของ น.ส.ภัทราวดี) อีกบัญชีหนึ่ง เพื่อให้ยอดบัญชีเหลือเป็นศูนย์บาท และสรรพากรจะได้โอนเงินที่ภาษีที่จะคืนให้เข้าบัญชีที่ไม่มีเงิน ซึ่งจะทำให้ น.ส.ภัทราวดี ง่ายต่อการตรวจสอบ
หลังจากโอนข้ามบัญชีไปอีกบัญชี ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เหยื่อกดตกลงในเว็บไซต์สรรพากรปลอม จากนั้นทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่า ให้รอสักครู่ทางสรรพากรจะโอนเงินภาษีคืนให้จำนวน 17,000 บาท จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็วางสาย ตนเองรออยู่พักใหญ่จึงทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าไม่มีเงินโอนมา ส่วนเงินที่โอนไปอีกบัญชีก็ไม่เหลือสูญหายไปหมด จึงปักใจเชื่อได้ว่าโดนหลอกเข้าแล้ว
น.ส.ภัทราวดี กล่าวต่ออีว่า เมื่อกลับมาตรวจสอบที่เว็บไซต์สรรพากรปลอม เทียบกับเว็บไซด์ สรรพากรจริงพบว่ามีความแตกต่าง อยู่ที่ดอทคอม หรือ จุด ในขณะที่ของปลอมเป็น ขีด หรือสแลด ที่จะมีความแตกต่างจากของจริง
ล่าสุดทางคุณ น.ส.ภัทราวดี ได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป…………