แกะรอยทลายโรงงานผลิตอาวุธปืนจากคดีวัยรุ่นยิงกันในภาคอีสาน ตรวจยึดของกลางนับร้อยกระบอก
เมื่อเวลาประมาณ 14:00 น. วันที่ 7 กันยายน 2565 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา สั่งการให้ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง ผู้นำท้องที่ นำหมายค้นศาลจังหวัดพังงา เข้าตรวจค้นบ้านเช่าในสวนยางพารา เลขที่22/2 ที่หมู่ 9 บ้านนาแฝก ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พบว่าภายในบ้านเป็นคลังแสงขนาดย่อมๆ มีอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนหลากหลายชนิด จำนวนเกือบร้อยกระบอก และ อุปกรณ์ เครื่องมือ การผลิตประกอบอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก แถมมีสติ๊กเกอร์ติดอาวุธที่ทำเสร็จชื่อ”พ่อบุญธรรม”
โดยของกลางส่วนใหญ่จะเป็นการดัดแปลงจากปืนแบลงค์กัน ที่นำมาเปลี่ยนลำกล้อง แมกกาซีน ลูกโม่ ให้ใส่กระสุนปืนจริงยิงได้เหมือนอาวุธปืนจริงๆ ขณะที่ผู้ต้องหารายนี้ได้ทางพ่อได้บอกว่าออกนอกพื้นที่ไปจังหวัดภูเก็ตได้ประมาณ1อาทิตย์แล้ว
พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดพังงาได้ทราบข้อมูลจากเหตุที่วัยรุ่นก่อเหตุยิงกันในพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด พบว่าอาวุธปืนของกลางส่งจากต้นทางจังหวัดพังงา จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภุธรจังหวัดออกติดตามสืบหาข้อมูลจนพบว่าผู้ต้องหาชื่อนายกิติพร พัดนาค อายุ27ปี ชาวอำเภอท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ “พ่อบุญธรรม” ไลฟ์สดขายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกับมีการยิงโชว์ผ่านออนไลน์โดยทำการยิงแบบเก็บเสียงที่ใช้ถังน้ำ ฟูกและหมอนเป็นอุปกรณ์ช่วยเก็บเสียง เจ้าหน้าที่จึงขอหมายศาลจากศาลจังหวัดพังงาเข้าทำการตรวจค้น และได้ของกลางเป็นจำนวนมาก จากนี้เจ้าหน้าที่จะขอหมายจับติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นายสมพรพัดนาค อายุ 62 ปี พ่อของผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองประกอบอาชีพค้าขายในต่างจังหวัด และหยุดค้าขายเนื่องจากโควิดมาได้ประมาณ2ปีแล้ว จึงเก็บอุปกรณ์ค้าขายกลับมาบ้าน และมาเช่าบ้านหลังนี้ไว้เก็บของ ส่วนลูกชายหลังจากเรียนจบก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และบอกว่าจะขอมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังนี้เอง ซึ่งตนก็ไม่เคยเข้ามาดู และไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าลูกชายจะดัดแปลงอาวุธปืนส่งขายทั่วประเทศ