ชาวเมืองลาเซียวเตรียมทะลักเข้าแม่ฮ่องสอน
ราษฎรชาวไทใหญ่เมืองลาเซียว เมืองหลวงของรัฐฉานเหนือ หนีภัยสงครามมุ่งหน้าสู่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อหางานทำและหนีภัยสงคราม ล่าสุด เดินทางถึง หมู่บ้านนากง ทางตอนเหนือของบ้านหัวเมือง อดีตฐานที่มั่นของกองทัพเมืองไต สมัยขุนส่าเรืองอำนาจ คาดจะเข้าสู่เมืองแม่ฮ่องสอน ใน ไม่เกินสัปดาห์นี้
วันนี้ได้มีชาวไทใหญ่จากเมืองลาเซียว ชื่อนางจ๋ามคำ ซึ่งได้ถ่ายคลิปตั้งแต่ออกเดินทางจากเมืองลาเซียว ลงมาทางใต้จนถึงหมู่บ้านนากง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านหัวเมือง อดีตฐานที่มั่นของ กองทัพเมืองไต สมัยขุนส่า เรืองอำนาจ โดยระบุในคลิปว่า พวกตนจำนวน 46 คน ได้พากันหลบหนีภัยสงครามในเมืองลาเซียว และล่าสุดวันนี้ได้เดินทางมาถึงบ้านนากง และได้กล่าวในคลิปดังกล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ผ่านบ้านหัวเมืองมายัง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อหางานทำและหลบหนีภัยสงครามไปในตัว โดยคาดว่าจะเข้ามาในไทยที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ในไม่เกิน 2-3 วันนี้ โดยคลิปดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่ในเฟซบุค ชื่อ คณะลูกหลานเจ้าเสือข่านฟ้า ( กลุ่มชนชาติไต หรือไทใหญ่ )
สำหรับเมืองลาเซียว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉานเหนือ ปัจจุบันได้มีการสู้รบอย่างหนักระหว่าง กองกำลังกองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง (MNDAA) ร่วมกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านของรัฐบาลเงา (PDF) เปิดปฏิบัติการ 1027 รอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา กับทหารเมียนมาในเมืองดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Shan News รายงานโดยอ้างข้อมูลซึ่งถูกเปิดเผยออกมาโดยกองทัพตะอั้ง (TNLA) ว่า นับแต่กองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง (MNDAA) ร่วมกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านของรัฐบาลเงา (PDF) เปิดปฏิบัติการ 1027 รอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ได้ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 120 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 170 คน
ตามข้อมูลของกองทัพตะอั้ง การสู้รบที่เมืองกุ๊ต หรือโมก๊ก ภาคมัณฑะเลย์ มีชาวบ้านเสียชีวิตไปแล้ว 31 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 8 ราย และเด็กเล็กอีก 9 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 60 คน ในนั้นเป็นเด็กเล็กมากกว่า 10 คน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมากกว่า 30 หลัง ศาสนสถานถูกทำลายไป 4 แห่ง
ที่เมืองจ๊อกแม ภาคเหนือของรัฐชาน การสู้รบที่เกิดขึ้นมา 1 เดือนเต็ม ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 38 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 24 ราย ราย เกือบทั้งหมดเป็นเด็กเล็กและคนชรา มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากว่า 40 คน บ้านเรือนถูกทำลายไป 37 หลัง และยังมีวัดอีก 2 แห่ง กับโรงเรียนอีก 2 แห่ง ที่ได้รับความเสียหายหนัก
การสู้รบที่เมืองหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มีชาวบ้านเสียชีวิต 18 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 8 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน บ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลัง วัด 1 แห่ง กับโรงเรียนอีก 1 แห่ง ถูกระเบิดทำลาย
ที่เมืองมีด จังหวัดเมืองมีด การสู้รบ 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิงอีก 2 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน บ้านเรือน 5 หลัง โรงเรียนอีก 2 แห่ง ได้รับความเสียหายจากระเบิด
การสู้รบที่เมืองล่าเสี้ยว มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 38 ราย ในนี้มีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย 5 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 คน บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และวัดวาอารามรวมแล้วหลายสิบแห่งที่ต้องพังทลายลงจากการสู้รบที่เกิดขึ้น
รวมจำนวนชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิตจากปฏิบัติการ 1027 ภาค 2 ใน 5 เมืองของรัฐชานกับภาคมัณฑะเลย์ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 128 ราย บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน ศาสนสถาน และวัดวาอารามอีกนับร้อยแห่งที่ได้รับความเสียหายหรือพังทลายลงไปทั้งหลังจากการสู้รบ
ปฏิบัติการ 1027 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง และ PDF เปิดฉากบุกโจมตีที่ตั้งทางทหารหลายแห่งของกองทัพพม่าในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างภาคเหนือของรัฐชานกับภาคมัณฑะเลย์ จากนั้นมีการสู้รบหนักเกิดขึ้นในเมืองจ๊อกแม หนองเขียว สีป้อ เมืองมีต ล่าเสี้ยว แสนหวี ของรัฐชาน และเมืองกุ๊ต ปินอูลวิน และเมืองมัตตะยา ของภาคมัณฑะเลย์ ชาวบ้านหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบต้องยอมทิ้งบ้านเรือน ไร่นา พาครอบครัวอพยพหนีภัยไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งห่างไกลจากการสู้รบ
กองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง และ PDF พยายามใช้ปฏิบัติการจิตวิทยา โดยเผยแพร่ข่าวชัยชนะที่มีต่อกองทัพพม่า จนสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้วหลายแห่ง แต่ทุกแห่งที่ปรากฏเป็นข่าวจนถึงทุกวันนี้ยังคงมีการสู้รบหนักเกิดขึ้น และทุกฝ่ายต่างใช้อาวุธหนักสาดใส่เข้าหากัน.
ทศพล / แม่ฮ่องสอน