ญาติ 41 คนไทยที่ได้รับช่วยเหลือจากเหตุสู้รบในเมียนมารอเก้อแต่อย่างไรขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมที่ให้การช่วยเหลือ ลุ้นต่อพรุ่งนี้ว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิดได้หรือไม่
วันที่ 16 พ.ย. 66 ที่อาคารสำนักงานด่านศุลกากรแม่สาย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ญาติคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในเมืองเล้าห์ไก่ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ได้มารอรับคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือรอบแรก จำนวน 41 คน ในการเดินทางข้ามแดนเพื่อกลับประเทศ ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 แต่พบว่ากระบวนการตรวจสอบของฝั่งเมียนมาค่อนข้างจะใช้เวลานานในการดำเนินการ ประกอบกับคนไทยทั้ง 41 คน ที่ได้ถูกนำตัวมาพักที่เมืองเชียงตุงก่อนหน้าได้ออกเดินทางจากเชียงตุง เมื่อเวลา 12.00 น. เพื่อมายังด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 ระยะทางประมาณ 168 กม. คาดว่าจะต้องใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงไทยก็ช่วงเย็นถึงค่ำของวันนี้ ซึ่งทั้งหมดจะต้องผ่านขบวนการการคัดกรองและตรวจสอบขั้นต้นที่ด่านศุลกากรแม่สาย จากนั้นจะเดินทางต่อไปที่ รพ.ค่ายเม็งรายมหาราชเพื่อพบญาติและแถลงข่าวภายใน มทบ.37 อ.เมืองเชียงราย
จากการสอบถามนางนิด (นามสมมุติ)ญาติของคนไทยที่ไปทำงานในพื้นที่สู้รบที่มารอรับลูกหลานที่อาคารด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 ทราบว่า เป็นกลุ่มญาติที่เดินทางมาจากบ้านลัวะพัฒนา หมู่บ้านสาขาของบ้านห้วยก้างปลา ม.15 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เดินทางมาทั้งหมด 9 คน เล่าว่า ลูกหลานในหมู่บ้านอายุประมาณ 20-30 ปี จำนวน 9 คน ได้ชักชวนกันข้ามไปทำงานที่ประเทศเมียนมา นานประมาณ 6 เดือนมาแล้วแต่ไม่ได้บอกว่าทำงานอะไร แต่เมื่อพอข้ามไปแล้ว 2-3 อาทิตย์ถึงจะติดต่อกับลูกหลานได้โดยได้คุยกัน 4-5 นาทีต่อครั้ง ซึ่งพวกเขาบอกว่าถูกหลอกมาทำงาน อยู่กินอย่างลำบากมาก ก่อนรีบวางสายไป เพราะมีคนยืนคุมอยู่ พวกตนได้ติดตามเหตุการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นในเมียนมาและทราบข่าวว่าลูกหลานที่ข้ามไปทำงานในประเทศเมียนมา ได้ถูกช่วยเหลือเพื่อนำกลับประเทศในรอบแรก 7 คน จาก 9 คน เป็นผู้หญิง 3 คน และผู้ชาย 4 คน พวกตนรู้สึกดีใจมาก และจะไม่ปล่อยให้ลูกหลานเข้าไปทำงานในประเทศเมียนมาอีกเป็นอันขาด และขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกๆคนที่ช่วยประสานพาลูกหลานให้กลับมาบ้าน ส่วนพรุ่งนี้พวกตนก็จะเดินทางมารอรับลูกหลานเช่นเดิมจนกว่าพวกเขาจะเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย……