วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ความคืบหน้ากรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Kanyarat Yooyong ได้โพสต์ข้อความ “ อนุญาตนะคะ เนื่องจากรถกระบะในภาพยี่ห้อนิสสันฟรอนเทียร์ตอนเดียวสีน้ำเงินไม่ทราบป้ายทะเบียน ได้ขับมาเฉี่ยวชนรถกระบะของเราแล้วได้ลงมาแสดงตัวว่าเป็นรถคู่กรณี แต่ต้องขับรถพาคนป่วยไปส่ง ร.พ.บึงสามพัน ไม่สามารถอยู่พูดคุยเรื่องอุบัติเหตุกับเราได้ และคู่กรณีได้ขับรถมาทางสี่แยกไฟแดงซับสมอทอด แต่ได้เลี้ยวขวามาทางร้าน18 มงกุฎ ในวันที่ 2/5/65 เวลาเกิดเหตุประมาณ12.20-12.30หน้ารำพึงรีสอร์ท เวลาในกล้องอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง จึงจะขอความช่วยเหลือจากพี่น้องที่ใช้เส้นทาง วังพิกุล-ซับสมอทอด ไปถึงเส้น ร.พ.บึง พอจะมีใครมีกล้องหน้ารถหรือกล้องวงจรปิดช่วยเปิดดูให้หนูหน่อยนะคะ ต้องการคือเลขแผ่นป้ายทะเบียน คือหนูอยากให้เขาเข้ามาคุยมาเคลียร์กันคะ เราเป็นผู้เสียหาย #ถ้าใครพอจะเห็นหรือกล้องจับภาพทะเบียนได้ลบกวนติดต่อกลับเฟสนี่นะค่ะ #ขอบคุณค่ะ ถ้าคู่กรณีเข้ามาติดต่อจะไม่เอาความนะคะเพราะได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วคะ #อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดแต่มันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบนะค่ะ “
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้โพสต์ ทำให้ทราบชื่อคือ นางสาวกัญญารัตน์ อยู่ยง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 793 หมู่ 3 ต.ศรีมงคล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ภรรยาเจ้าของรถ ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา วันนั้น สามีตนเองทำพิธีบวช จึงมีขบวนแห่นาคเข้าวัด ซึ่งในขบวนก็มีรถหลายคัน ส่วนคู่กรณี นั้นขับตามมาด้วยความเร็ว แล้วเฉี่ยวชนเข้ากับรถของตนเอง โดยมีนาค นั่งอยู่บนกระบะหลัง โชคดีที่ไม่มีคนเจ็บ แต่รถเสียหาย ส่วนคู่กรณีก็อ้างว่าต้องพาภรรยาที่ป่วยไปหาหมอ แล้วจะกลับมารับผิดชอบ โดยฝ่ายผู้เสียหายไว้ใจ จึงปล่อยไป แต่สุดท้ายก็เงียบ ไม่ยอมกลับมารับผิดชอบ โดยฝ่ายผู้เสียหายจำได้เพียง คู่กรณี เป็นชาย อายุราว 55-65 ปี ผมหงอก รูปร่างผอม ขับรถยนต์กระบะ นิสสัน รุ่นฟรอนซ์เทียร์ สีน้ำเงิน แต่จะหมายเลขทะเบียนไม่ได้ พร้อมทั้งให้ดูรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีดำ ทะเบียน ผก 6523 เพชรบูรณ์ ซึ่งมีร่องรอยความเสียหายตรงประตู กระจกมองข้าง และ สปอยเลอร์ด้านหน้า ที่ต้องนำเชือกฟาง มาผูกมัดเอาไว้ก่อน
จากการสอบถาม นางสาวกัญญารัตน์ อยู่ยง อายุ 24 ปี เล่าว่า ตนเป็นแฟนเจ้าคิวรถซึ่งตอนนี้แฟนบวชเป็นพระ และในวันนั้นพาแฟนไปบวชตอนที่ชนตนก็นั่งหน้าคู่กับคนขับซึ่งตอนที่ชนตนเองก็มองไม่ชัดเพราะมีผ้าที่เขามัดตบแต่งรถแห่นาคบังอยู่ แต่ก็เห็นเป็นรถกระบะ สีน้ำเงิน ตนเห็นแค่นี้ หลังจากชนแล้วคู่กรณีก็เร่งเครื่องแซงขบวนแห่นาคไป ขบวนก็ไม่ยาวอะไรมากเพราะไปใครไปมันไปตั้งขบวนกันใหม่ที่วัด หลังจากชนตนก็บอกให้พี่คนขับบีบแตรเรียกเขาให้จอดแต่เขาก็เลยไปจอดไกลพอสมควร และยังมีรถมาจอดแทรกอีกทำให้ตนมองไม่เห็นป้ายทะเบียนรถคู่กรณี ซึ่งตอนนั้นตนเองก็อุ้มลูกน้อยอยู่ด้วยเลยไม่ได้ลงไปคุยกับเขาไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันบ่างและก็ไม่ได้ขอชื่อที่อยู่อะไรเลย แต่เห็นเขาบอกว่าขอไปส่งคนป่วยก่อนเดียวกลับมา แล้วเขาขับรถออกไปเลยตั้งแต่นั้นไม่เห็นมาอีกเลย ตนก็จอดรถไว้ตรงที่เกิดเหตุพอไปส่งนาคเสร็จก็พากันกลับมาดูรถอีกที่ ก็เห็นรถคู่กรณีจอดอยู่แต่ก็พากันจำสีผิดคิดว่าคันที่ชนเป็นสีเขียวเลยมาตามพี่ๆไปอีกทีก็ไม่เห็นรถคู่กรณีแล้วตนอยากให้เขาออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะเจ้าของรถก็บวชตนเองก็ไม่มีรายได้อะไรเลย
ด้าน นายดนัย บินสูงเนิน อายุ 33 ปี เล่าว่า ตนเองขับรถไปบวชนาคกัน ส่วนรถคันที่เกิดเหตุมีนาค นั่งอยู่ด้วย ส่วนคู่กรณีเหมือนจะแซงไม่พ้น แล้วก็เลี้ยวตบ ส่วนคู่กรณีก็ไปจอดไกลเหมือนกัน ตนเองก็ลงรถแล้วก็วิ่งไป เขาน่าจะขับรถมาเร็วเหมือนกัน ส่วนรถคู่กรณีไม่มีใครถ่ายเอาไว้ เขาบอกว่าจะรีบพาคนป่วยไปหาหมอ น่าจะเป็นเมีย คนขับอายุน่าจะ 60 ปีกว่า คือเขาไปโรงพยาบาลจริง เพราะเห็นจากกล้องวงจรปิด และเห็นรถเขาจอดอยู่ที่ลานจอดรถ
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เพชรบูรณ์ ภาพ-ข่าว ลาวัณย์ วุฒิสินอักษรา