คนร้ายใช้สากกระเบือตีหัวชิงทอง อ้างทำไปเพื่อหาเงินแต่งเมีย
วันนี้( 26 มิถุนายน 2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าพล ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเหยือใด้วยการใช้มือล๊อกคอ ก่อนใช้สากกะเบือทุบหัว แล้วชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทไป โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 6 ตำบลท่าพล อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงรายงาน พลตำรวจตรี ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ผกก.สภ.ท่าพลทราบ ก่อนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบนางอำไพ สงวนนามสกุล อายุ 54 ปี ยืนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ และบริเวณท้ายทอยด้านขวา โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ทองคำ 1 บาท ไปครึ่งเส้น ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น พีซีเอก สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป ซึ่งนางอำไพ ให้การว่า คนร้ายคือ นายคมสันต์ เทพชมภู หรือ แป๋ง อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดกั้นเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี รวมถึงบ้านร้างและป่ารกร้างข้างทาง จนเวลาผ่านไปราว 7 ชั่วโมงจึงสามารถจับตัวนายคมสันต์ ไว้ได้โดยพบว่าคนร้ายรายนี้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณหลังกำแพง ข้างป่ามะขาม ในพื้นที่หมู่ 13 ตำบลท่าพล จึงทำการจับกุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ท่าพล
นายคมสันต์ สารภาพว่าเป็นคนก่อลงมือเหตุจริง โดยไม่คิดจะทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งตนเองหวังแค่สร้อยคอทองคำเท่านั้น แต่ขณะลงมือ นางอำไพร ได้หันมาเห็นพอตนเข้า พร้อมกับ ร้องให้คนช่วย จึงลงมือใช้สากกะเบือตีเข้าไปที่ศีรษะและท้ายทอยของเหยื่อเพื่อไม่ให้ส่งเสียงแต่ก็ไม่เป็นผลตนจึงรีบหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ นายคมสันต์ ยังอ้างอีกว่าที่ลงมือก่อเหตุเพราะต้องการหาเงินไปแต่งเมีย เพราะตนมาอยู่บ้านฝ่ายหญิง แล้วเกิดทะเลาะกัน ตนเลยออกมาอยู่ข้างนอก ตนไม่มั่นใจฝ่ายหญิง เลยอยากหาเงินไปแต่งงานให้เรียบร้อย ให้มันจบๆ ไป
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่กำลังสอบสวน นายคมสันต์ ได้มีผู้เสียหายอีกราย เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อมาแจ้งความเพิ่มเติม คือ นางพรเดือน อ่ำแก้ว อายุ 68 ปี แม่ค้าขายแตงโม อยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในตำบลท่าพล ซึ่งถูก นายคมสันต์ หรือ แป๋ง คนร้าย ลงมือทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยเข้าที่ใบหน้า ก่อนชิงเงินสดไปประมาณ 300 บาท โดยผู้ร้านรายนี้ได้ทำทีมาขอซื้อแตงโม เมื่อหยิบให้ 1 ลูก กลับไม่พอใจ จะเอา2 ลูก ป้าก็หยีิบให้แต่คนร้ายไม่พอใจพอใจที่เรามองก่อนลงมือต่อยเข้าที่ปากและคว้าเงินของตนไปอีก 300 บาท แล้วหลบหนีไป นอกจากนี้คนร้ายยังมีพฤติกรรมก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ ของชาวบ้าน ที่ทำการเสียบชาร์จทิ้งไว้ ไปอีก 1 เครื่อง จึงถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม รวมเป็น 3 ข้อหา คือ 1.ข้อหา ลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ 2.ข้อหา ทำร้ายร่างกายแม่ค้าแตงโม และ 3.ข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ” ซึ่งได้ก่อนเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ มาถึงที่เกิดเหตุได้ใช้อาวุธ(สากกระเบือ)ทำร้ายผู้หญิง อายุ 54 ปี และกระชากสร้อยคอทองคำไป เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทั้ง 3 ข้อหา
เพชรบูรณ์ ภาพ-ข่าว ลาวัณย์ วุฒิสินอักษรา
