เชียงรายส่งเครื่องบินทำฝนหลวงแก้ปัญหาหมอกควันแล้ว
ที่วันนี้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ศบก.ไฟป่า) จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) นายสมเกียรติ ปูกา ทสจ.เชียงราย พร้อมคณะะหน่วยงานที่เกี่ยวเดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังเจ้าหน้าที่และนักบิน กรมฝนหลวง ที่ได้นำเครื่องบิน ชนิด CASA มาสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อลดปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่กำลังเผชิญอยู่อย่างต่อเนื่อง พบว่าวันนี้ค่าฝุ่นขนาดเล็ก pm 2.5 ในช่วงบ่ายวันนี้ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย มีค่า 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่ อ.แม่สาย วัดได้ 137ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ อ.เชียงของ 140ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งโดยรวมยังส่งผลเป็นอันตรายต่อประชาชน
ด้านนายพุฒิพงศ์ กล่าวกรมฝนหลวงได้อนุคราะห์ที่จะเข้ามาทำฝนหลวงในพื้นที่ตามกรรมวิถี หากได้ฝนก็จะช่วยให้ปัยหาไฟป่าและหมอกควันเบาบางลง จะคืนอากาศที่ดีแก่เชียงราย ซึ่งปัจจุบันยังเกิดไฟไหม้ในหลายอำเภอ ไม่ว่าอำเภอเมือง แม่จัน แม่สรวยกับเวียงป่าเป้า โดยแม่สรวยนั้นจะเยอะสุดในขณะนี้ โดยทางจังหวัดได้เข้าไปทำความใจกับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว โดยจุดฮอตสปอตที่อำเภอเมืองลดลงมากเหลือหลักสิบจุดจากเดิมที่มีเกือบ 100 จุด ภาพรวทั้งจังหวัดจากกว่า 200 จุดตอนนี้เหลือเพียง 100 จุดเท่านั้น สำหรับการเครื่องบินชนิด CASA ที่นำมาสามารถเติมน้ำได้เที่ยวละ 900 ลิตร โดยวางแผนเติมน้ำที่สนามบินเชียงราย อีก 2 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 3 เที่ยวบิน รวม 2,700 ลิตร มีพื้นที่เป้าหมายบินโปรยน้ำทางทิศตะวันตกของ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยจะะทำกการบินทุกวันจนกว่าจะมีฝนตกหรือสถานการณ์ไฟป่าและะหมอกควันของ จังหวัดเชียงรายคลี่คลายลง
นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือกล่าวว่าเชียงรายประสบวิกฤตหมอกควันตั้งแต่ตันมีนาคมที่ผ่านมา ทางกรมฝนหลวงจึงปรับแผนเพิ่มเครื่องบินทำฝนหลวงเพิ่ม ชนิด CASA จำนวน 2 ลำ เครื่องบินฝนหลวงคาราแวน (caravan) จาก จ.แพร่ อีก 1 ลำและเครื่องบินซุปเปอร์คิงส์แอร์ มาวินิจฉัยอากาศเพื่อวางแผนการทำฝนหลวง ซึ่งช่วงนี้เป็นการทำฝนหลวงท่ามกลางความชื้นที่มีปริมาณน้อย หากทำได้ก็จะทำตามตำราฝนหลวงพระราชทาน เพื่อบังคับให้ฝนตกตามพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่เกษตร ซึ่งเป็นพื้นที่ต้องการฝนไม่ให้เกิดการจุดติดไฟได้ หากความชื้นไม่เพียงพอก็จะทำการก่อเมฆบริเวรแนวเขา ติดชายแแดนไทย-เมียนมา ซึ่งลมก็จะพัดเข้ามายังจังหวัดเชียงรายโดยตรง หากความชื้นน้อยกว่านี้ก็จะทำการเจาะช่องอากาศเพื่อให้อากาศเกิดความสมดุลย์ ปล่อยควันที่ครอบจังหวัดเชียงรายอยู่ออก โดยใช้น้ำแข็งแแห้งให้อากาศดีขึ้นได้ ซึ่งในช่วง 6 -7 -8 เมษานี้โอกาสเกิดฝนก็ยังมีจึงจะอาศัยช่วงในทำฝนหลวงครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกจังหวัด เพราะหากทำจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งที่ประสบปัญหา หากฝนตกลงมาจังหวัดเดียวพื้นที่ที่มีควันอยู่ก็จะลอยมาปกคลุมพื้นที่ข้างเคียงนั้นเอง
/////
