ทึ้ง!!!ศาลเจ้ากวนอูกว่า 200 ปีไหหลำหนวกเครางอกเอง
วันนี้จะพาทุกท่านไปที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป้าหมายอยู่ที่ปากกะแดะ ต.ตำบลพลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นชุมชนที่ชาวประมงตั้งรกรากทำมาหากินอย่างหนาแน่น มีทั้งชาวพื้นถิ่นและจีนไหหลำที่อพยพกันมาที่นี้เมื่อ 200 ปีก่อน ภายในชุมชนยังคงพบเห็นบ้านไม้เก่าอายุกว่าร้อยปีที่ชาวชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ บ้านเรือนเกือบทุกหลังมียันต์ภาษาจีนติดอยู่ที่บริเวณด้านบนของปากประตูทางเข้าบ้าน สอบถามอากงเกียรติ อายุ 79 ปี ลูกหลานรุ่นเหลนของชาวจีนที่อพยพเข้ามา ถึงยันต์ดังกล่าวจึงทราบว่าเป็นของเจ้าพ่อกวนอู “เทพเจ้าแห่งความภักดี ความซื่อสัตย์ อีกทั้งยังถือว่าเป็น เทพแห่งโชคลาภ” ที่ได้จากศาลเจ้าไหหลำ ปากกะแดะ
ทีมผู้สื่อข่าวได้เดินไปตามทางที่ผ่านชุมชนบ้านเกาะทรายหรือบ้านปากกะแดะ เป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร จึงพบศาลเจ้าไหหลำ ตั้งอยู่กลางชุมชนบนพื้นที่ 2 ไร่
ศาลเจ้าแห่งนี้มีศิลปะศาลเจ้าแบบจีน ปัจจุบันมี โกกุย ชุลีธรรม เป็นผู้ดูแล พร้อมด้วยไกด์เยาวชน ประกอบด้วย ด.ช.วรรณวัฒน์ แซ่หลี่หรือ “น้องวัฒ์” อายุ 13 ปี, ด.ช.ทิธัช ทวะศิลป์ อายุ 12 ปี และ ด.ช.ธนะ กรรัตนะ หรือ น้อง “ธันวา”อายุ 12 ปี ที่คอยอาสาเล่าเรื่องราวในอดีตถึงการอพยพของชาวจีนที่หนีภัยสงครามกลางเมืองจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน ด้วยเรือสำเภาเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่นี้ พร้อมได้อัญเชิญรูปไพ่เต๋า (เจ้าแม่ทับทิม) เล่าบุนหง่าว และเฮียดีเก๋ง(องค์ 108) และเจ้ากวนอู(กวนก๋ง) มาประดิษฐานไว้ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ นับเป็นเวลากว่า 200 ปี ที่ชาวชุมชนที่เป็นทั้งคนไทยพื้นถิ่นและชาวจีนให้ความเคารพกราบไหว้บูชา
(ภาพเก่า)
(องค์ปัจจุบัน)
เดิมที่เทพเจ้าก่วนก๋ง(กวนอู องค์ขวา), เล่าบุนหง่าวก๋ง(องค์กลาง) และติ้นบุ่นหว่าวก๋ง(องค์ซ้าย) ที่ถูกอัญเชิญมาแรกๆมีหนวดเคราเล็กน้อยแต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป หนวดเคราได้งอกออกมาดกดำสร้างความอัศจรรย์ให้กับชาวชุมชน ทั้งไทย จีน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก หลายครั้งที่ผู้ที่เดินทางมาบนบานศาลกล่าวเพื่อขอโชคลาภ หน้าที่การงานหรือแม้กระทั้งความรัก ก็ประสบความสำเร็จ
อย่างเช่นนักร้องดังท่านหนึ่งที่มาขอแล้วประสบความสำเร็จจนกลับมาสร้าง “ไต่เสี่ยฮุกโจ้ว”หรือเห้งเจีย ไว้ให้ผู้คนมาสักการะบูชา น้องๆทั้งสามคนยังได้แนะนำการไหวบูชาเทพพระเจ้าต่างๆในศาลเจ้าแห่งนี้ก่อนสุดท้ายจบด้วยการขอพรจากเทพเจ้าก่วนก๋ง(กวนอู ), เล่าบุนหง่าวก๋งและติ้นบุ่นหว่าวก๋ง โดยสามารถขอพรได้เมื่อสัญญาณกลองดังขึ้นจนเสียงกลองสงบลง ทริปนี้คงสิ้นสุดลงตรงนี้แต่ทริปหน้าเราจะพาท่านไปลุยป่าชายเลน พร้อมทานหอยนางรม ที่แหล่งเลี้ยงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สุราษฎร์ธานี อีกด้วย……