เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 20 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ และ กู้ภัยช่วยกันระดมค้นหานายวรวิทย์ มิ่งขวัญ อายุ 26 ปีหลังจากได้กระโดดลงจากท้ายกระบะรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวไปที่โรงพัก กระโดดลงไปในคลองริมทางซุกซ่อนตัวใต้ผักตบชวา ซึ่งสาเหตุมาจากที่นายวรวิทย์ ได้ขับรถกระบะไปเฉี่ยวชนกับคู่กรณีและมีการหลบหนีจนกระทั่งรถมาเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ โดยทางตำรวจและกู้ภัยพยายามระดมค้นหาอยู่นานเกือบ 1 ช.ม.คาดว่านายวรวิทย์ ทนอยู่ในน้ำไม่ไหวจึงค่อยๆโผล่ศรีษะขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่เห็นและทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นมาด้านบน อีกทั่งยังได้สอบถามถึงสาเหตุว่ากระโดดหลบหนีทำไม ซึ่งเจ้าตัวให้การเพียงว่า ผมก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมผมถึงตัองหลบหนี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและจะตรวจวัดแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดในร่างกายอีกครั้ง
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุบริเวณถนนราชพฤกษ์ขาออกตรงข้ามทางเข้าวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น รีโว่ สีขาว ทะเบียน 9กถ 901 กทม สภาพรถพังเสียหายยับเยินทั้งคัน พลิกตะแคงพิงอยู่กับกำแพงบ้าน โดยมีรั้วสังกะสีพังเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก ขณะเดียวกันยังพบร่องรอยของยางรถยนต์ที่พื้นถนนลักษณะเสียหลักเป็นทางยาวจากช่องทางหลักหมุนข้ามเกาะกลางถนนก่อนไปหยุดอยู่กับกำแพงบ้านประชาชนที่อยู่ริมทาง
นายสรศักดิ์ ดวงสา อายุ 33 ปีซึ่งเป็นผู้เสียหายกล่าวว่าตนเองมากับภรรยาและบุตรขับรถกระบะมาจากสมุทรปราการเพื่อกลับบ้านย่าน อ.บางบัวทอง ในขณะที่ขับลงมาจากต่างระดับบางใหญ่เพื่อใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ ก็เห็นว่าด้านหน้ามีการว่างแบริเออร์ทำเบี่ยงไว้ จึงมีการชะลอตัวจู่ๆรถกระบะของนายวรวิทย์ ขับปาดจากช่องทางขวาเพื่อหลบเบี่ยงแซกมาในช่องทางซ้ายอย่างกระชั้นชิดเกือบจะชนรถของตน ตนเองจึงมีการกดแตรส่งสัญญาณเตือน ซึ่งคาดว่าทำให้นายวรวิทย์ ไม่พอใจ หลังจากนั้นนายวรวิทย์ เริ่มแสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด โดยการเบิ้ลเครื่องใส่ ออกตัวกระชาก หลังจากนั้นเริ่มมีอาการหนักขึ้นในขณะที่ขับผ่านพ้นในช่วงรถติดมาได้เล็กน้อยนายวรวิทย์ แซงขึ้นมาประกบทางด้านขวาก่อนที่จะหักซ้ายปาดหน้ารถของตน ทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกันเสียหายเล็กน้อยน้อย หลังจากนั้นได้ขับรถตามไปและพยายามบอกให้นายวรวิทย์ จอดรถเพื่อให้มารับผิดชอบแต่นายวรวิทย์ กับเร่งเครื่องหนี กระทั่งนายวรวิทย์ เลี้ยวเข้าไปจอดในปั๊มด้านถนนราชพฤกษ์ ซี่งตนเองเข้าใจว่านายวรวิทย์ จะลงมาพูดคุยเรื่องค่าเสียหาย แต่กับเป็นว่านายวรวิทย์ ได้ขับรถออกจากปั๊มหลบหนีต่อ ซึ่งในระหว่างนั้นตนเองได้ทำการหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายวีดีโอเพื่อให้เห็นทะเบียนรถและพฤติกรรม ก่อนที่จะหยุดติดตาม จนมองเห็นในระยะไกลว่ามีรถยนต์เกิดเสียหลักจากช่องทางหลักหมุนก่อนที่ตัวรถจะข้ามเกาะกลางถนนไปพลิกตะแคงอยู่กับบ้านที่อยู่ริมทางดังกล่าว จึงได้จอดดูถึงได้รู้ว่าคือรถคู่กรณีของตนนั้นเอง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำคู่กรณีไว้ ส่วนนายวรวิทย์ นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมรวมถึงตรวจหาสารเสพติดในร่างกายอีกครั้ง โดยล่าสุดนายวรวิทย์ยังไม่ยอมปริปากหรือให้การกับเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปควบคุมไว้ในห้องขังก่อน