รอบรั้วเชียงราย » “นายกเศรษฐา” รับฟังปัญหาที่ดินทำกิน- ระบบชลประทาน ฯ

“นายกเศรษฐา” รับฟังปัญหาที่ดินทำกิน- ระบบชลประทาน ฯ

13 กรกฎาคม 2024
9166   0

“นายกเศรษฐา” รับฟังปัญหาที่ดินทำกิน- ระบบชลประทาน และะขอผ่อนปรนคนจีนข้ามแดนจากฝั่งลาวมาเที่ยวได้ครั้งละ 3 วัน

วันนี้(13 กรกฎาคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ อ.เชียงแสน เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทาน เพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมกกับพบปะประชาชน ที่บริเวณกำแพงเมืองเชียงแสน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พ้อมดด้วยชาวชาติพันธุ์ต่างๆ รวมและประชาชนในพื้นที่ มารอต้อนรับ

นายกฯ กล่าวว่า “เคยมาเชียงแสนในช่วงหาเสียง แต่ครั้้งนี้เมื่อได้เป็นนายกฯ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เดินทางมา ถือเป็นโอกาสดีที่ตนและทีมงานจะได้รับฟังปัญหา ทั้งเรื่องราคาพืชผลผลิตที่ตกต่ำ การเลี้ยงสัตว์ การส่งออก และการสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรที่สูงขึ้น และได้พบกับกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มซึ่งรัฐบาลยืนยันที่จะดูแลเรื่องสัญชาติ และพื้นที่ทำกินภายใต้การผลักดันของ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รัฐบาลยืนยันให้ความเสมอภาคเท่าเทียมดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ในประเทศไทยที่ถูกต้องตามกฏหมาย

ขณะที่ นายกสมาคมเชียงแสนเมืองน่าอยู่ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ โดยขอรับการสนับสนุน 3 โครงการ คือ 1.โครงการรวมเทศบาลตำบลเวียง และเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ให้เป็นหนึ่งเดียว 2.โครงการผันน้ำแม่น้ำโขงโดยการทำท่อส่งน้ำจากแม่น้ำโขงในพื้นที่แม่น้ำอิง แม่น้ำกก และแม่น้ำคำ เพื่อเป็นการส่งต่อให้ตำบลต่างๆ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงให้มีน้ำอุปโภคบริโภค และ 3. อนุญาตผู้ไม่มีหนังสือเดินทางสัญชาติจีน ซึ่งอยู่ฝั่งลาว ให้ออกเป็นหนังสือผ่านแดนเข้ามาท่องเที่ยวได้ โดยให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ คณะได้เดินลงไปดูสภาพริมแม่น้ำโขงบริเวณ อ.เชียงแสน ที่จะทำโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามาใช้ในตามโครงการของชลประทาน

ต่อมา นายกฯ เป็นประธานประชุมหารือแผนพัฒนา จ.เชียงราย พร้อมรับฟังปัญหาการค้าขายตามแนวชายแดน การสกัดกั้น และการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งหลังจากรับฟังปัญหานายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศไปเจรจากับจีน เรื่องการส่งวัวผ่านแม่น้ำโขงไปจีนโดยตรง เพื่อไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมด่านกักกันสัตว์ของลาว ตัวละ 8,000 บาท พร้อมจัดหาเครนเพื่อขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนทางเรือ และขอให้มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผลไม้ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่า ด้านการท่องเที่ยว ได้ร้องขอให้ช่วยประะชาสัมพันธ์เพื่ออโปรโมทเชียงรายเเนื่องจากจังหวัดเชียงรายเป็นเมืองเก่าที่มีโบราณสถานจำนวน โดยขอให้เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์

นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ คือเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน เพราะจากรายงานมีการจับกุมเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่า โดยเฉพาะเฮโรอีน จึงขอให้ประสานกับทางสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพราะถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีการลักลอบขนส่งไป ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการปะทะกับแก๊งยาเสพติด ขอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) เร่งกระจายยุทโธปกรณ์ไปตามหน่วยตำรวจ โดยเฉพาะกล้องไนท์วิชั่น ตามหน่วยแนวชายแดนให้เร็วที่สุด รวมถึงการจัดหารถโฟล์วิล พร้อมให้เร่งศึกษาการขนยาเสพติดผ่านโดรน ที่อาจมีขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะสกัดกั้นได้ทัน

นอกจากนี้ นายกฯ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังอย่าประมาทเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย หากฝ่ายตรงข้ามแรงมา ก็ให้แรงไป จะไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียอีกเด็ดขาด อีกทั้งชุมชนต้องเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือไม่ให้ผู้ติดยาที่ได้รับการรักษาแล้วกลับไปติดยาเสพติดอีก โดยจะต้องมีการเอ็กซเรย์ทุกหมู่บ้าน และนำจังหวัดน่าน และจังหวัดร้อยเอ็ด มาเป็นโมเดลจังหวัดสีขาว โดยขอให้ทางกองทัพเป็นที่พึ่งของผู้ที่ได้รับการบำบัดยาเสพติดแล้วให้ได้มีอาชีพไม่กลับไปติดยาเสพติดอีกเฉกเช่น มณฑลทหารบกที่ 38 เป็นต้น