ชาวบ้านรวมตัวบุกแจ้งความบริษัทรับซื้อใบกระท่อมซื้อแล้วไม่จ่ายเงินความเสียหายนับล้าน
ที่ สภ.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกใบกระท่อมประมาณ16 ราย พากันเดินทางมาเพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.สง่า ศรีวิชัย ผกก.สภ.แม่ยาว เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าพวกตนได้ตกลงขายใบกระท่อมให้กับเอกชนรายหนึ่งที่ประกาศรับซื้อ แต่ปรากฎว่าเมื่อนำผลผลิตที่ปลูกไปส่งขายกลับไม่ได้รับเงิน เบื้องต้นคาดว่ามีความเสียหายรายละตั้งแต่ประมาณ 50,000-หลายแสนบาท
นายมนตรี จินดาหลวง อายุ 45 ปี จาก ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน กล่าวว่าเอกชนรายนี้ได้ทำข้อตกลงกับพวกตนในปี 2564 ว่าจะรับซื้อใบกระท่อมแบบใบสดไม่คัดเกรดกิโลกรัมละ 200 บาท ทำให้เกษตกรในกลุ่มของตนประมาณ 100 รายพากันปลูก และเอกชนได้ขายต้นกล้ารุ่นแรกแบบเสียบยอดต้นละ 180 บาท ต่อมาใช้การหยอดเมล็ดต้นกล้าละ 150 บาท ซึ่งพวกตนทราบว่านอกจากกลุ่มของพวกตนแล้วยังมีการไปส่งเสริมการปลูกในอำเภออื่นๆ อีก บางรายลงทุนเป็นมูลค่า 1-2 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าต่อมาเอกชนแจ้งว่าจะไม่รับซื้อใบสดแล้วแต่จะรับซื้อใบอบแทน ทำให้เกษตรกรบางรายลงทุนสร้างลงอบเป็นโดมพลังงานแสงอาทิตย์ จากนั้นนำใบอบไปส่งขายกลับได้รับเงินเพียง 1 งวดจากทั้งหมด 3-5 งวด บางรายเสียหายนับแสนบาท ซึ่งพวกตนยังไม่ได้รวบรวมตัวเลขความเสียหายอย่างเป็นทางการ แต่ในภาพรวมตนคาดว่ามีถึง 100-200 ล้านบาท
“เมื่อเราได้รับข้อมูลทำให้คนที่มีที่นาหรือที่่ว่างเปล่าพากันปลูก เพราะเขาบอกว่าจะรับซื้อกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งพวกเราคิด่ว่าเป็นใบไม้และรับซื้อใบสดจึงเห็นว่าคุ้มค่าแน่นอน แต่เรื่องก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะเขาเคยบอกว่าใช้เวลา 8 เดือนก็เก็บใบขายได้ แต่ผ่านไป 1 ปีก็เก็บไม่ได้ หรือ 1 ครึ่งก็เก็บไม่ได้ แม้ถึง 2 ปีก็ยังเก็บไม่ได้ เขาจึงแนะนำให้ซื้อปุ๋ยและน้ำหมักที่ที่นำมาขายให้เอง กระทั่งต่อมาเก็บใบส่งขายแบบใบแห้งให้ไป 5-6 งวด ปรากฎว่าได้เงินแค่งวดเดียวโดยเอกชนเริ่มหยุดจ่ายเงินให้ตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา” นายมนตรี กล่าวและว่าตนเคยสงสัยและสอบถามไปยังเอกชนว่ามีการส่งออกผลิตภัณฑ์สารสกัดใบกระท่อมไปยังต่างประเทศจริงหรือไม่ มีรูปภาพ เอกสารการส่งออก ฯลฯ หรือไม่แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด ดังนั้นหากการแจ้งความกับตำรวจไม่คืบหน้าพวกเราจะไปแจ้งกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ต่อไป รวมทั้งอยากให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ ให้รักษาสิทธิ์อย่าให้ถูกหลอกลวงอีกเลย
ด้านนายณรงค์ ใจปินตา อายุ 56 ปี ชาว ต.แม่คำ อ.แม่จัน กล่าวว่าตนเคยขายใบกระท่อมให้เอกชนรายนี้ได้เงิน 1-2 งวด แต่งวดที่ 3 ปรากฎว่าไม่ยอมจ่ายเงินเป็นมูลค่าประมาณ 48,000 บาท และตนยังเสียค่าทำโรงอบอีกประมาณ 50,000 บาท โดยระหว่างรอเงินตนได้เก็บผลิตงวดที่ 4 เตรียมไว้แต่เมื่อไม่ได้รับเงินจึงตัดสินใจไปส่งไปขายอีกแล้วและไปแจ้งความร้องทุกข์ส่วนใบกระท่อมที่เก็บได้ก็นำไปทำปุ๋ยแล้ว.
