อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ชร.อ้างแก๊งสกิมเมอร์หลอกโอนเงินกว่าแสน 3 ปีไม่คืบ
เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น.วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มี น.ส.พนิดา มะโนธรรม อายุ 54 ปี อดีตแกนนำกลุ่มเชียงรายตะวันแดงกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นหนึงในกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยเคลื่อนไหวเมื่อมากกว่า 10 ปีก่อน และอดีตผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย ได้เดินทางไปติดคามความคืบหน้ากรณีได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ตั้งแต่เดือน ส.ค.2563 ว่าได้ถูกกลุ่มคนหลอกให้โอนเงินไปให้หลายครั้ง หลายบัญชีและหลายธนาคาร ระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย.2563 จนสูญเสียเงินรวมทั้งสิ้น 106,500 บาท เหตุเกิดที่ ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย
น.ส.พนิดา ระบุว่าเมื่อปลายปี 2563 ตนได้ใช้เฟซบุ๊กและได้มีผู้ใช้รายหนึ่งอ้างว่าชายชาวต่างชาติชื่อ Mario Garry เป็นทหารอเมริกันที่หน้าตาดีได้เข้ามาขอเป็นเพื่อน เมื่อตนรับเป็นเพื่อนก็ได้มีการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องและมีการแลกเปลี่ยนชื่อและหมายเลขโทรศัพท์
ต่อมาเฟซบุ๊กดังกล่าวยังอ้างว่าประจำการอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานพร้อมะเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวัน จากนั้นอ้างว่ากำลังจะเกิดสงครามจึงขอความช่วยเหลือให้ตนเก็บเงินไว้ให้จำนวน 3,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และหากเขาตายก็ให้ช่วยดูแลลูกสาวให้ด้วย กระทั่งอีกหลายวันต่อมาเฟซบุ๊กเดียกวันได้แจ้งอีกว่าได้ส่งพัสดุจากประเทศอัฟกานิสถานไปให้ตนแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2563 โดยภายในมีเงินจำนวนดังกล่าวด้วย พร้อมมีการส่งรูปภาพประกอบมาให้ดู และอีก 1 วันต่อมาก็ได้มีหญิงคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาตนอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทจัดส่งพัสดุพร้อมแจ้งให้เสียค่ารับครั้งแรกวันที่ 7 ก.ย.จำนวน 19,500 บาท และครั้งที่ 2 วันที่ 11 ก.ย.จำนวน 20,000 บาท ทำให้ตนโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไปให้โดยแต่ละครั้งได้รับแจ้งให้โอนเงินเขาบัญชีของบุคคลและธนาคารที่แตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตามต่อมาผู้ที่อ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทส่งพัสดุอ้างอีกว่าภายในกล่องพัสดุมีเงินจำนวนมาก ซึ่งไม่มีการแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้าจึงขอปรับเป็นเงินอีก 67,000 บาท ตนจึงโอนเงินไปยังชื่อบัญชีและธนาคารที่แตกต่างออกอีกในวันที่ 28 ก.ย.2563 แต่กลับแจ้งกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มไปอีก 31,000 บาทเพราะยังคงค้างค่าบริการ ทำให้ตนเห็นว่าถูกหลอกจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนและรอง ผกก.สส.สภ.บ้านดู่ ติดภารกิจทำให้ น.ส.พนิดา จึงเดินทางกลับพร้อมจะนัดหมายเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในอนาคต แต่ น.ส.พนิดา ยังเชื่อว่าตนเองอาจโดนบริษัทหลอก แต่ไม่ได้ถูกนายพลอเมริกาหลอกแต่อย่างไร